ข่าวและโปรโมชั่น

เที่ยวครบรส ช้อป ชิม ชิลล์ กับเทศกาลเที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด Plus 5 ภาค ในวันที่ 15 - 19 ก.พ. 60 @ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์



เที่ยวที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าเที่ยวเมืองไทยบ้านเรา เพราะเมืองไทยมีดีกว่าที่คุณคิด ซึ่งเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังอยากเที่ยว และเตรียมทริป วางแผนเที่ยวในปีนี้  govivigo มีอีกหนึ่งงานเทศกาลท่องเที่ยวดีดีมาแนะนำเพื่อน ๆ กันอีกเช่นเคย เพื่อเป็นทางเลือก ให้คุณได้ท่องเที่ยวเมืองไทยกันนแบบจัดเต็ม

โดยงานนี้ ททท. ชวนเที่ยวงาน เทศกาล“เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด Plus 5 ภาค” ในวันที่ 15-19 ก.พ. 60  ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยภายในงานพบกับของดีหลากหลายจาก เมืองต้องห้าม...พลาด Plus 24 จังหวัด ได้แก่ สินค้าและบริการท่องเที่ยว แพกเกจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สินค้า OTOP และอาหารท้องถิ่น สายการบินและตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ การแสดงศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ และกิจกรรมที่จะชวนให้ชม ชิม ช้อป ชิล กันอย่างเพลิดเพลิน งานนี้คนชอบเที่ยวห้ามพลาด
 

สำหรับ “เมืองต้องห้าม...พลาด Plus” 5 ภาค 24 จังหวัด ได้แก่

 

ภาคเหนือ

 
  • “ลำปาง-ลำพูน เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา” : เน้นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในความเป็นเมืองเก่า มีกลิ่นอายของวันวาน ชมวิถีชีวิตเก่าๆ ชมสถาปัตยกรรมล้านนา/วัดวาอาราม อนุรักษ์วิถีชีวิตแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ วัฒนธรรมโบราณอย่าง รถม้า หอนาฬิกา สะพานข้ามแม่น้ำ สถานีรถไฟ และที่สำคัญคือการเชื่อมกันด้วยรถไฟผ่านอุโมงค์ขุนตาน และเลือกชมเลือกซื้อผ้าทอพื้นเมืองเป็นของฝากกลับบ้าน
     
  • “เพชรบูรณ์-พิษณุโลกภูดอกไม้สายหมอก” เป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ปกคลุมด้วยทะเลหมอก อากาศเย็นตลอดปี อีกทั้งยังมีสีสันของทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งสองจังหวัดมีความเป็นธรรมชาติที่คล้ายกันจึงเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยธรรมชาติสวยงาม ภูเขา ดอกไม้ สายหมอก อย่าง ภูทับเบิก เขาค้อไร่กะหล่ำปลี อุทยาแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และเส้นทางเชื่อมโยง Route 12
     
  • “น่าน-แพร่ กระซิบรักเสมอดาว” น่านเป็นเมืองเก่าที่มีชีวิตและมีความโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศไทย มีเรื่องราวของความรักและความผูกพันของคู่รัก อย่างภาพกระซิบรักบันลือโลกที่วัดภูมินทร์ การถวายเทียนคู่มงคลต่อองค์พระประทานพนทวีวัดมงคล และไหว้สักการะวัดพระธาตุแช่แห้ง ต่อด้วยการไปไหว้สักการะวัดพระธาตุช่อแฮที่แพร่ ถือเป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยตัวเองแบบช้าๆ ดื่มด่ำกับรายละเอียด
 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 
  • “บุรีรัมย์-สุรินทร์ เมืองปราสาทสองยุค” : สองจังหวัดนี้มีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยปราสาทหินโบราณและอารยธรรมขอม มีแหล่งปราสาทหินโบราณที่สำคัญที่สุดในเมืองไทย เช่น ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินเมืองต่ำที่บุรีรัมย์และปราสาทศีขรภูมิ ปราสาทตาเหมือนที่สุรินทร์ และในปัจจุบันปราสาทยุคใหม่คือปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือไอ-โมบาย สเตเดียม หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียม รวมถึงสนามแข่งรถ Buriram United International Circuit ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย
     
  • “เลย-ชัยภูมิ เย็นสุด...สุขที่เลย” : เชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยธรรมชาติที่สวยงาม UNSEEN และ Adventure เลยมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ภูหลวง ภูเรือ ภูลมโล ภูสวนทราย ภูป่าเปาะ และล่องแพชมวิวระหว่างรับประทานอาหารที่ห้วยกระทิง ส่วนชัยภูมิก็ต้องไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติไทรทอง (ผาหำหด) ภูแลนคา ตาดโตน ป่าหินงาม มอหินขาวและทุ่งดอกกระเจียวที่เป็น Highlight หลักของจังหวัดที่พลาดไม่ได้
 

ภาคกลาง

 
  • “สมุทรสงคราม-นครปฐม เมืองสายน้ำสามเวลา” : เมืองเก่าริมน้ำกับวิถีชีวิตประจำวันริมแม่น้ำ ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดดอนหวาย ตลาดทุ่งคา ตลาดร่มหุบ สายน้ำแม่กลอง สายน้ำนครชัยศรี มีจุดขายเป็นสายน้ำ 3 เวลา เชื่อมโยงการท่องเที่ยววิถีชีวิตสายน้ำเช้าตักบาตรทางน้ำ กลางวันเที่ยวชมตลาดน้ำและตลาดบก เย็นนั่งเรือดูหิ่งห้อย ขี่จักรยานริมแม่น้ำลัดเลาะริมสวน เยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน เลือกชิมเลือกซื้อของได้ตลอดแนวริมน้ำ เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยวแล้วกลับไปด้วยความประทับใจ
     
  • “ราชบุรี-สุพรรณบุรี ชุมชนคนอาร์ต” : เมืองที่รวบรวมงานศิลปะไว้มากมาย มีจุดขายเป็นการนำศิลปะต่างๆ มาดึงดูดนักท่องเที่ยว เชื่อมโยงด้วยศิลปะพื้นบ้าน ศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นใหม่และพิพิธภัณฑ์ระดับจังหวัดและชุมชนทั้งตลาดน้ำดำเนินสะดวก โรงโอ่ง พิพิธภัณฑ์จิปาถะพัน วัดขนอน จ.ราชบุรี ตลาดสามชุก (ตลาด 100 ปี) ตลาดเก้าห้อง อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรวัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
 

ภาคตะวันออก

 
  • “ตราด-ระยอง เมืองเกาะในฝัน” : หมู่เกาะภาคตะวันออกมีความงดงามไม่แพ้ทะเลอื่นในประเทศไทย เป็นแหล่งที่ได้รับความนิยมสำหรับนักเดินทาง หาดทรายขาว แหล่งดำน้ำดูปะการังใต้ท้องทะเลที่สวยงาม ที่สำคัญมีที่พักระดับ Luxury สุดหรู สุดชิกคอยให้บริการอยู่จำนวนมาก หมู่เกาะทะเลตราด 52 เกาะ มีกิจกรรมดำน้ำชมปะการัง ดูเหยี่ยวแดงคอขาว ล่องเรือชุมชนบ้านสลักคอก จ.ตราด เกาะเสม็ด เกาะมันนอก เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง เป็นต้น
     
  • “จันทบุรี-สระแก้ว สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้” : เมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้ตลอดทั้งปี และมีการนำผลไม้มาประกอบอาหารที่มีเอกลักษณ์และมีความเป็น Original ของท้องถิ่น เช่น มัสมั่นทุเรียน น้ำพริกระกำ แต่นอกจากความสมบูรณ์ของผลไม้ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวชายแดนก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของทั้งสองเมือง เส้นทางอุทยานแห่งชาติป่าเขาสอยดาว โป่งน้ำร้อน ต่อด้วยอุทยานแห่งชาติปางสีดา ละลุปราสาทสด๊กก๊อกธมตลาดการค้าชายแดน (ตลาดโรงเกลือ+ศูนย์การค้าอินโดจีน) ที่ห้ามพลาด
 

ภาคใต้

 
  • “ตรัง-สตูล ยุทธจักรความอร่อย” : ตรังเป็นเมืองที่รวบรวมอาหารอร่อยมากมาย ทั้งอาหารไทย จีน ติ่มซำ หมูย่าง เค้ก ขนมเปี๊ยะ อาหารใต้พื้นเมือง โรตี ชากาแฟ สามารถกินได้ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืน ส่วนสตูลก็มีความหลากหลายของอาหาร เช่น โรตี มะตะบะ ชาชัก แกงตอแมะห์ (แกงกะหรี่ปลา) แกงแพะ-ข้าวเหนียว ขนมบุหงาปุดะ ขนมลูกโดนเชื่อมโยงด้วยอาหารอร่อยขึ้นชื่อของพื้นถิ่นอาหารทะเลสด ๆ
     
  • “ชุมพร-ระนอง หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้” : ชุมพรจังหวัดที่มีทะเลที่สวยงามของฝั่งอ่าวไทย มีหาดทรายยาวต่อเนื่องถึง 222 กิโลเมตร (1 ลี้ เท่ากับ 0.5 กิโลเมตร) มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย คือหาดวัวแล่น หาดทุ่งซาง หาดทรายรี ยาวจนถึงหาดอรุโณทัย รวมถึงเกาะกุลา เกาะง่าม เกาะรังกาจิว จังหวัดที่เชื่อมโยงกับชุมพรคือจังหวัดระนอง มีเกาะที่สวยงามอย่างเกาะพยาม เกาะช้าง รอยต่อของสองจังหวัดที่กระบุรีและเขาทะลุมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยสวนกาแฟ แหล่งปลูกกาแฟโรบัสต้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชมสวนกาแฟ วิถีการผลิตกาแฟ และนั่งจิบกาแฟหอมกรุ่นขึ้นชื่อของเมืองชุมพร
     
  • "นครศรีธรรมราช-พัทลุง นครสองธรรม" : เป็นจังหวัดที่โดดเด่นทั้งเรื่องทางธรรมะและธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองกระจายอยู่ทุกอำเภอ สิ่งที่เป็น Highlight สิ่งแรกคือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ นครศรีธรรมราช กับประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ และวัดเขียนบางแก้ว จ.พัทลุง ก็มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเช่นเดียวกัน ด้านธรรมชาติทั้งสองจังหวัดมีความหลากหลาย เช่น อุทยานแห่งชาติเขาหลวง น้ำตกกรุงชิง หมู่บ้านคีรีวง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ส่วน จ.พัทลุง มีการล่องเรือชมนกน้ำ ควายน้ำ ที่ทะเลน้อย วิถีชีวิตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และวัดเขียนบางแก้ว ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง



สำหรับผู้สนใจเที่ยวงานเทศกาล“เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด Plus 5 ภาค” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-19 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือ TAT Bangkok





ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : TAT Bangkok , http://www.amazingthaitour.com และ http://www.manager.co.th/travel




 

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)