ข่าวและโปรโมชั่น

ไปหนึ่งแต่ได้ถึงสอง! แนะนำจุดหมายสถานที่ท่องเที่ยวที่จะได้เที่ยว 2 แห่งในทริปเดียว จาก Booking.com



จริงอยู่ที่การเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ นั้นถือเป็นเรื่องสนุกและน่าตื่นเต้น แต่รู้ไหมว่าการเดินทางไปยังจุดหมาย ที่คุณสามารถเที่ยว 2 แห่งได้พร้อมกัน นั้นถือเป็นประสบการณ์ดีๆ แบบคูณสอง เพราะใครๆ ก็ต้องการจะไปเยือนสถานที่ต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กันทั้งนั้น นอกจากนี้ผลสำรวจของ Booking.com* ก็เผยว่าผู้เดินทางทั่วโลกมากกว่าครึ่งหรือกว่า 52% นั้น ต้องการไปเที่ยวจุดหมายในฝันให้มากขึ้นในปี 2018 และหากคุณก็เป็นอีกคนนึงที่มีแผนไปเยือนสถานที่ต่างๆ ให้มากที่สุด เราขอนำเสนอตัวเลือกแปลกใหม่เหล่านี้ให้ลองไปทำฝันให้เป็นจริง


 

ฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์





หากคุณฝันอยากพักใน 2 ประเทศไปพร้อมๆ กัน  Arbez Franco Suisse เป็นจุดหมายที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริง เพราะที่พักนี้ ตั้งอยู่บนเส้นพรมแดนระหว่างฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์พอดิบพอดี ที่พักแห่งนี้เป็นชาเลต์ทรงเสน่ห์ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้นอนพักผ่อนโดยที่หัวนอนหันไปทางสวิส ส่วนปลายเท้าชี้ไปทางฝรั่งเศส นอกจากนี้ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องพักบางห้องก็แบ่งตามเส้นเขตแดน ระหว่าง 2 ประเทศ เรียกได้ว่าผู้เข้าพักจะได้ลืมตาตื่นต้อนรับวันใหม่ในฝรั่งเศส จากนั้นทานอาหารในสวิตเซอร์แลนด์ โดยไม่ต้องออกจากที่พักแต่อย่างใด


 

เบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์



เมืองบาร์เลอ (Baarle) อาจเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีความซับซ้อนที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะผสมผสานวัฒนธรรมระหว่าง 2 ประเทศไว้ด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ แม้จะอยู่ระหว่างเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม แต่ที่นี่ก็ไม่ได้แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจนด้วยเส้นเขตแดนเพียงเส้นเดียว เพราะมีพื้นที่หลายส่วนที่ทับซ้อนกันอย่างปราณีต แทรกไปมาระหว่างเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ เรียกได้ว่าพลเมืองของเมืองนี้แบ่งสัญชาติโดยใช้ที่ตั้งของบ้าน ที่อยู่อาศัยเป็นหลัก

พักที่ไหนดี : Hotel Brasserie Den Engel ที่เปี่ยมเสน่ห์แห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางของบาร์เลอ-นัสเซา (Baarle-Nassau) ซึ่งเป็นเขตเทศบาลของฝั่งเนเธอร์แลนด์ ที่นี่ให้บริการร้านอาหารที่มีระเบียงกลางแจ้งบรรยากาศเชิญชวนให้มาพักผ่อน และนั่งรับแสงแดด







แต่หากคุณต้องการนอนพักในบาร์เลอ-แฮร์ท็อก (Baarle-Hertog) ซึ่งอยู่ฝั่งเบลเยี่ยมแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้จองที่พักที่ Brownies&downieS Baarle แสนสบายซึ่งมีร้านอาหารเบลเยี่ยม อีกทั้งมีลานระเบียงที่เหมาะกับนั่งชมวิวเมืองให้คุณได้ทำความเข้าใจรูปแบบผังเมืองที่ซับซ้อนไปในขณะเดียวกัน


 

ซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ - เอกวาดอร์



กีโต เป็นเมืองหลวงของประเทศเอกวาดอร์ เมืองนี้ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตรและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของบริเวณเส้นศูนย์สูตร นอกจากนี้ด้วยภูมิภาคที่อยู่บนเทือกเขาแอนดีส กีโตยังเป็นหนึ่งในเมืองแห่งแรกๆ ของโลกที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดย UNESCO อีกทั้งยังมีย่านเมืองเก่าที่น่าตื่นตา เต็มไปด้วยโบสถ์สไตล์บาโรก และถนนปูหินสวยงามเปี่ยมสเน่ห์ ยิ่งไปกว่านั้นนอกเมืองก็ยังมี สวนพิพิธภัณฑ์ซิวดัด มีตัดเดลมุนโด (Ciudad Mitad del Mundo) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Middle of the World City (นครกึ่งกลางของโลก) รวมถึงอนุสรณ์สถานที่แสดงถึงทำเลที่ตั้งบนเส้นศูนย์สูตรอย่างแท้จริง



พักที่ไหนดี : ห้องพักของ El Crater มีระเบียงส่วนตัวซึ่งสามารถออกไปชมวิวของอนุสรณ์สถานเส้นศูนย์สูตร (Equator Monument) ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้ โดยทำเลของที่พักมีฉากหลังสุดงดงามเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ อย่างภูเขาไฟปูลูลาวา (Pululahua Volcano) ตัวที่พักเป็นสถาปัตยกรรมเฉพาะของเอกวาดอร์ซึ่งออกแบบจากหินสลัก ด้วยมือ ตกแต่งภายในแบบร่วมสมัย รวมถึงมีแกลเลอรี่งานศิลป์จำนวนมากจัดแสดงผลงานของศิลปินเอกวาดอร์ชื่อดัง นอกจากนี้ห้องอาหารของ El Crater ก็ให้บริการเมนูอาหารเอกวาดอร์ ค็อกเทลแปลกใหม่ และคานาเป้ ที่น่าสนใจคือเป็นจุดชมวิวทั้งซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ได้แบบ 360 องศา


 

มหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดีย - แอฟริกาใต้



แหลมอะกะลัสเป็นจุดที่อยู่ใต้ที่สุดของแอฟริกา โดยว่ากันว่าเป็นเส้นแบ่งอย่างเป็นทางการ ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก ลองนึกภาพว่าจะสุดยอดแค่ไหนถ้าเท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่ใน เขตมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนอีกข้างก็อยู่ในเขตมหาสมุทรอินเดียไปพร้อมๆ กัน แหลมแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของประภาคารเคปอะกะลัส (Cape Agulhas Lighthouse) ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1848 และเป็นประภาคารซึ่งมีอายุเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ที่ยังใช้การอยู่ในแอฟริกาใต้ เดินเล่นขึ้นไปจนถึงยอดเพื่อชมวิวสุดตระการตาของมหาสมุทรสุดยิ่งใหญ่ทั้ง 2 แห่งมาบรรจบกันบริเวณแนวชายฝั่งหิน



พักที่ไหนดี : Agulhasbestview ตั้งอยู่ในเมืองอะกะลัสซึ่งอยู่ริมฝั่งทะเล โดยจากที่พักสามารถเดินเป็นระยะทางสั้นๆ ไปเที่ยวประภาคารเคปอะกะลัสได้ ที่พักแห่งนี้ให้บริการกระท่อมพร้อมพื้นที่ทำอาหาร อีกทั้งสามารถชมวิวมหาสมุทรสุดตื่นตาซึ่งหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว


 

เนวาด้าและแอริโซนา - เขื่อนฮูเวอร์ สหรัฐอเมริกา



เขื่อนฮูเวอร์ สุดอลังการนั้น ตั้งอยู่บนพรมแดนของรัฐเนวาด้าและแอริโซนา จึงเป็นอีกจุดหมายที่นอกจากจะได้ไปอยู่ 2 รัฐในครั้งเดียวแล้ว ยังได้อยู่ใน 2 เขตเวลาอีกด้วย (เขตเวลา Mountain และเขตเวลา Pacific) สถาปัตยกรรมสุดยิ่งใหญ่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่สำคัญด้านวิศวกรรมโยธาของสหรัฐอเมริกา ขอแนะนำให้คุณจองทัวร์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความสำคัญของเขื่อนไปด้วย



พักที่ไหนดี : Hoover Dam Lodge ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเขื่อนฮูเวอร์ โดยใช้เวลาขับรถเพียงไม่นาน ถนนเส้นที่ที่พักตั้งอยู่นั้นทิศหนึ่งมุ่งไปยังเขื่อนฮูเวอร์ ส่วนอีกฝั่งมุ่งไปยังเมืองโบลเดอร์ซิตี้ ที่พักแห่งนี้มีห้องพักกว้างขวางซึ่งสามารถเห็นทั้งวิวภูเขาและทะเลสาบ รวมถึงให้บริการสระว่ายน้ำกลางแจ้งตามฤดูกาล ผู้เข้าพักจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ในละแวกที่พัก ไม่ว่าจะเป็นยืนพายเรือแพดเดิลบอร์ด เดินป่า และขี่จักรยาน


 

แผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย - อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Þingvellir) ไอซ์แลนด์



การได้ยืนคร่อมเหนือพรมแดนระหว่าง 2 รัฐหรือ 2 ประเทศเพื่อให้ได้อยู่ในสถานที่ 2 แห่งพร้อมกันก็ว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นแล้ว แต่เคยนึกภาพการได้ยืนคร่อมระหว่าง 2 แผ่นทวีปดูบ้างไหม? หากสนใจก็ขอให้วางแผนมุ่งหน้าไป ประเทศไอซ์แลนด์ ได้เลย เพราะที่นี่เป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่แห่งเดียวในโลก ซึ่งสามารถมองเห็นจุดบนแผ่นดินที่แผ่นเปลือกโลกและแนวเทือกเขากลางมหาสมุทรมาบรรจบกันได้ จึงเปิดโอกาสให้ผู้เดินทางได้สัมผัสประสบการณ์ไม่เหมือนใครนั่นคือการเดินระหว่าง 2 แผ่นทวีปไปพร้อมกันในครั้งเดียว



พักที่ไหนดี : Hotel Grimsborgir Luxury Rooms and Apartments ให้บริการห้องสวีทและอพาร์ตเมนต์แสนสบาย โดยสามารถขับรถเป็นระยะทางไม่ไกลนักไปอุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ซึ่งได้ขึ้นทะเบียน UNESCO อีกทั้งเป็นจุดที่ดีที่สุดสำหรับชมวิวและเดินไปตามแนวบรรจบระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย ผู้เข้าพักสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพท้องฟ้าและเทือกเขาโดยรอบได้จากระเบียงห้อง ลานระเบียง หรือนั่งแช่ตัวชมวิวจากอ่างน้ำอุ่นกลางแจ้งที่มีให้บริการถึง 14 อ่าง


 

สัมผัสโลกใต้น้ำและเหนือผืนน้ำไปพร้อมกัน - มัลดีฟส์





Huvafen Fushi เป็นรีสอร์ทสุดหรูซึ่งตั้งอยู่บริเวณ เกาะนอร์ทมาเล อะโทล (North Malé Atoll) ของมัลดีฟส์ ให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งแบบเหนือน้ำและใต้น้ำ ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายกับทรีทเมนท์ได้ที่ Lime Spa ซึ่งอยู่ใต้น้ำ หรือฝึกโยคะในศาลากลางน้ำ นอกจากนี้ห้องอาหารของที่พักซึ่งตั้งยกระดับเหนือน้ำก็มีห้องครัวแบบเปิดให้ชมเหล่าเชฟปรุงอาหาร พร้อมเสิร์ฟเมนูซีฟู้ดจากวัตถุดิบสดใหม่


 

ลอยอยู่ในอากาศแต่ไม่ตัดขาดจากผืนดิน - อินเดีย





ผู้เดินทางที่มองหาประสบการณ์เข้าพักแปลกใหม่ท่ามกลางธรรมชาติ สามารถลองค้างคืนใน บ้านต้นไม้ซึ่งลอยอยู่ระหว่างผืนดินและท้องฟ้า The Tree House Resort เป็นที่พักซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและตั้งอยู่ในผืนป่าอุดมสมบูรณ์ของ หุบเขาสยารี (Syari Valley) อีกทั้งยังสามารถมองเห็น วิวเทือกเขาอาราวัลลี (Aravalli) ได้ ตัวที่พักตั้งอยู่เหนือยอดไม้ มีโครงสร้างทำจากไม้และมีกิ่งก้านของต้นไม้ลอดผ่านระหว่างห้องและเฟอร์นิเจอร์ ตื่นรับเช้าวันใหม่ท่ามกลางเสียงร้องของเหล่านก และใช้เวลาอย่างเงียบสงบริมสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ก่อนจะปิดท้ายด้วยเมนูอาหารอินเดียแสนอร่อยที่ห้องอาหาร  Machaan ของรีสอร์ท



* การสำรวจนี้จัดทำโดย Booking.com และดำเนินการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งได้เดินทางในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา/วางแผนที่จะเดินทางในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยผู้ตอบแบบสอบถามมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 18,509 คน (ประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 1,000 คน ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา บราซิล จีน เยอรมนี อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส อินเดีย สิงคโปร์ และรัสเซีย ส่วนประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 500 คน ได้แก่ ออสเตรเลีย อาร์เจนตินา เบลเยียม แคนาดา เดนมาร์ก ฮ่องกง โครเอเชีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สวีเดน ไทย และไต้หวัน) โดยผู้ตอบได้ทำแบบสอบถามทางออนไลน์ในเดือนสิงหาคม 2017





 

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)