ข่าวและโปรโมชั่น

เปิดให้เข้าชมวังสระปทุม พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ในระหว่างวันที่ 1 – 31 สิงหาคม 2559



ในย่านใจกลางเมือง อย่างกรุงเทพมหานคร ที่ปกคลุมไปด้วยตึกสูงใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงแรมหรืออื่นๆ อีกมากมายยังมีอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีความเงียบสงบ ร่มเย็น และปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาชนิด นั้นก็คือสถานที่ตั้งของ "วังสระปทุม" วังในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ประทับของเจ้านายหลายพระองค์ ซึ่งบางส่วนในวังสระปทุมนั้น ได้ก่อตั้งเป็น "พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า" แต่ก็ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมบ่อยนัก และเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ทางพิพิธภัณฑ์จึงเปิดให้เข้าชม ระหว่างวันที่ 1 - 31 สิงหาคม 2559 เข้าชมได้ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.00 น. 

เพิ่มเติม : วังสระปทุม ได้เปิดให้เข้าชมอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2559 ถึง 31 มีนาคม 2560 เท่านั้น เข้าชมได้ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.00 น

govivigo ขอเกริ่นเรื่องราวเกี่ยวกับวังสระปทุมแบบคร่าวๆ เผื่อเพื่อนๆ บางคนอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับประวัติของวังแห่งนี้ เริ่มมาจากที่ ร.5 มีพระราชดำริจะพระราชทานที่ดินบริเวณถนนปทุมวันหรือถนนพระรามที่ 1 ให้เป็นสถานที่สร้างวังของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (ในขณะนั้นดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์) พระราชโอรสซึ่งประสูติแต่สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า แต่เนื่องจากพระองค์ได้เสด็จไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา จึงยังไม่มีการสร้างพระตำหนักขึ้นตราบกระทั่ง ร.5 เสด็จสวรรคต ร.6 จึงได้พระราชทานสิทธิ์ในที่ดินให้เป็นของพระบรมราชชนกในเวลาต่อมา 

หลังจากการเสด็จสวรรคตของ ร.5 สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าได้เสด็จออกมาประทับภายนอกพระบรมมหาราชวัง พระองค์โปรดฯ ที่ดินบริเวณนี้มาก และได้ทรงการปลูกพระตำหนักที่เรียกว่า "พระตำหนักใหญ่" (สีเหลือง) เพื่อจะเสด็จมาประทับอยู่เป็นการถาวรสำหรับ "พระตำหนักใหญ่" ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้านั้น เป็นตำหนัก 2 ชั้นทาสีเหลืองทั้งองค์พระตำหนัก ซึ่งวังสระปทุมยังคงใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เรื่อยมาจนกระทั่งพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2538 หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานวังสระปทุมให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจนถึงปัจจุบัน และเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า วังสระปทุมเป็นสถานที่สำคัญแห่งพระราชวงศ์ ด้วยเป็นตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และได้เป็นที่ประทับของสมเด็จย่าในเวลาต่อมา สมควรที่จะจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ แสดงพระราชกรณียกิจอันเป็นแบบอย่างอันดีงามแห่งการดำรงชีวิตที่อำนวยประโยชน์สุขแก่คนหมู่มาก สมเด็จพระเทพฯ จึงทรงจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นสนองพระราชดำริ

ปัจจุบันพื้นที่ของวังสระปทุมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกเป็นพื้นที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ส่วนที่ 2 เป็นพื้นที่ให้เช่าทำศูนย์การค้า เช่น สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ และสยามพารากอน พื้นที่ส่วนในนั้นประกอบไปด้วยพระตำหนักและเรือนต่างๆ คือ พระตำหนักใหญ่ พระตำหนักเขียว และเรือนข้าราชบริพาร ดังนั้นจึงเป็นที่มาของพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 

ภายในมีการจัดแสดงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ หอนิทรรศการ และพระตำหนักใหญ่ 
 
  • ส่วนที่ 1. หอนิทรรศการ จัดแสดงนิทรรศการ เรื่อง สายธารประวัติสว่างวัฒน์พิพิธภัณฑสถานซึ่งประกอบ ไปด้วยพระราชประวัติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และนิทรรศการการบูรณะซ่อมแซมพระตำหนักใหญ่ วังสระปทุม
     
  • ส่วนที่ 2. พระตำหนักใหญ่ เป็นพระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๕๙ ตราบจนเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๔๙๘ เล่ากันว่าสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าทรงคิดผังพระตำหนักด้วยพระองค์เอง ทรงใช้ไม้ขีดไฟบ้าง หางพลูบ้าง ทำเป็นผัง แล้วจึงทรงให้สถาปนิกออกแบบถวายตามพระราชประสงค์ คาดว่าพระตำหนักใหญ่น่าจะสร้างแล้วเสร็จในช่วง พ.ศ. ๒๔๕๗ – ๒๔๕๘ การจัดแสดงพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ณ พระตำหนักใหญ่ วังสระปทุม ได้จัดห้องต่างๆ ไว้เป็น 3 ช่วงเวลา คือ
  • ช่วงที่ 1 เป็นการสร้างพระตำหนักแล้วเสร็จ เกิดเหตุการณ์สำคัญอันเป็นมงคลยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งเป็นที่จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ กับ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ภายในห้องพีธีและห้องรับแขก จะเห็นเฟอร์นิเจอร์ ถ้วยชาม และการประดับจัดวางอย่างสวยงาม
  • ช่วงที่ 2 มีการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ภายในห้องอย่างสบายตา สวยงาม ถัดไปจะเป็นส่วนของ “เฉลียงพระตำหนักใหญ่ชั้นบน” ซึ่งสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าโปรดที่จะประทับเมื่อทรงตื่นจากบรรทมและเสวยพระกระยาหาร ณ ที่นี้ ไม่เพียงเท่านั้นบริเวณนี้ยังเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
  • ช่วงที่ 3 โดยห้องทรงพระสำราญ ห้องทรงนมัสการ และห้องพระบรรทม และยังเป็นที่รวบรวมเอกสารและของใช้ส่วนพระองค์อีกด้วย

วังสระปทุม แห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ได้เปิดมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสกับสถานที่แห่งนี้รับรองว่าจะได้รับทั้งความรู้และความปลาบปลื้มประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน และเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ทางพิพิธภัณฑ์จึงเปิดให้เข้าชม ระหว่างวันที่ 1 – 31 สิงหาคม 2559 ทุกวันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท นักเรียน/นักศึกษา 50 บาท โดยการเข้าชมทุกครั้งจะต้องทำการนัดหมายล่วงหน้า และจะจัดเป็นรอบในการเข้าชมรอบละประมาณ 15 คน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2252-1965-67 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : ​manager




 

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)