รีวิว

รีวิวเที่ยว จ.ชัยภูมิในหนึ่งวัน

Thailand
วันออกเดินทาง 12/08/2017
วันเดินทางกลับ 12/08/2017
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน < 1,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม รีวิวเที่ยว จ.ชัยภูมิในหนึ่งวัน ไปเช้าเย็นกลับ งบน้อยก็ไปได้
35K views
วันที่
1

เปิดประเด็นการเริ่มรีวิวครั้งแรกในชีวิตกับการพาไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ แบบธรรมดาที่ไม่ได้เลิศหรู ดูแพง แต่เป็นการพาร่างกายไปพักผ่อนในสถานที่หลากหลายกับสถานที่แรกขอพาไป จ.ชัยภูมิ ด้วยเทศกาลทุ่งดอกกระเจียวบาน ซึ่งฤดูการเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวจะมีช่วงเวลาที่ดอกกระเจียวบาน ของปีนี้จะอยู่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน 2560 นั่นเองงงง.....เริ่มเลยล่ะกัน.... ต้องบอกก่อนว่าเราบ้านอยู่แถวสวนสยามทะเลกรุงเทพนั่นเอง(เอ่อ ลืมบอกว่าเราไปวันที่ 12 สิงหาคม 2560)
ซึ่งเป็นวันที่ทุกคนออกต่างจังหวัดกัน เราเริ่มเดินทางในเวลา 06.30 น. เราไปทางเส้นมอเตอร์เวย์ ซึ่งรถติดมาก กอ ไก่ ล้านตัว เพื่อนร่วมทางเยอะมาก
รถเริ่มติดตั้งแต่ช่องจ่ายตังของมอเตอร์เวย์ แต่ก็วิ่งได้เรื่อยๆ การเดินทางของเรานั้นใช้เส้นทางวิ่งตรงไปสระบุรี แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้น ชัยบาดาล ซึ่งก็สามารถไปจังหวัดนครราชสีมาได้ด้วยแต่อ้อมไหมเราไม่รู้ อิอิ(แล้วพูดทำไม)

ซึ่งเราเราออกเดินทางแต่เช้าจึงต้องแวะหาอะไรทานก่อน จึงแวะทานก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นข้างทาง แต่บอกเลยรสชาดคือดีอ่ะ
ราคาไม่แพงด้วยอ่า ชามละ 45 บาทเท่านั้น พอทางเสร็จก็เริ่มเดินทางต่อ ขับไปเรื่อยๆจึงเลี้ยวเข้าชัยบาดาล มุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จุดหมายของเรานั่นเอง....
แต่พอใกล้ถึงก็จะพบกับเจ้ากังหันลมยักษ์ ที่อยุ่ไกลสุดสายตาแต่ได้อารมณ์ประมาณว่าเออนี่สิที่ไม่ได้เจอในกรุงเทพ เรามาถึงอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เวลาเที่ยงโดยประมาณ ซึ่งแดดร้อนมาก คนค่อยข้างเยอะแต่ไม่ถึงกับแน่น สิ่งที่ทุกคนทำกันโดยทั่วไปคือ การเซลฟี่กับป้ายอุทยานที่หลายล้อมด้วยดอกกระเจียวที่เค้าจัดวางไว้ด้านหน้า แต่ภายใต้แดดที่ร้านนั้น พอเราเข้ามาในร่มไม้ก็จะได้สัมผัสถึงไอเย็นเล็กๆที่มากระทบกับผิวซึ่งทำให้ฉันรู้เลยว่าฉันควรมาที่นี่ในเวลาเช้ากว่านี้ (เฮ้อ.... ทำไงได้ล่ะก็ที่คิดไว้คือน่าจะมาถึงช่วง 8-9 โมงเช้า แต่ไม่ใช่ไง) อ่ะไม่เป็นไร

เราก็เริ่มเที่ยวกันเลยด้วยวันที่นั้นมานั่นเป็นวันแม่ ทางอุทยานจึงงดเก็บค่าเข้าอุทยาน (อ้าวประหยัดไป อิอิ) พอเดินเข้าไปด้านในก็จะเจอกับร้านค้าโอทอปของจังหวัดซึ่งเค้าเรียกว่า ตลาดละลายทรัพย์ แล้วเราก็ต้องมารอคิวซื้อตั๋วรถซาฟารี คนละ 30 บาท เพื่อขึ้นไปด้านบน บนรถจะมีไกด์ นักเรียนคอยอธิบายความเป็นมา จุดนั่นนี่ ให้ตลอดทาง จุดแรกที่เค้าเอาเรามาปล่อยคือ
ป้ายผาสุดแผ่นดิน ดินแดน 3 ภาค ทุกคนก็ต่างทำตามประเพณี คือการเซลฟี่กับป้าย แล้วเดินขึ้นไปถ่ายกับหน้าผา ซึ่งภาพที่เห็นคือ วิวทิวทัศน์ภูเขาสีเขียว กับท้องฟ้าที่ใสโปร่ง โล่งสบายตา ถึงแดดจะร้อนแค่ไหน แต่วิวที่เห็นมันก็ยังสวยอยู่ดีอ่ะ

พอทุกคนถ่ายภาพกันเสร็จแล้วก็เดินทางไปชมทุ่งดอกกระเจียวซึ่งเดินต่อไปไม่ไกลมากแต่ก็แอบเมื่อยนะ ซึ่งทางเดินจะเป็นป่านิดๆ ซึ่งระหว่างเดินก็จะเห็นก้อนหินที่ถูกนำมาวางต่อๆกันเป็นชั้นๆ ซึ่งจากที่เเคยดูในซี่รี่เกาหลีการวางแบบนี้ในซี่รี่คือการขอพรมั้งแอบมั่วป่าวไม่รู้ตรงนี้ อ่ะพอเดินไปสักพักก็จะถึงจุดหมายของเราคือชมทุ่งดอกกระเจียวบาน

แต่เราต้องบอกก่อนเลยว่าระหว่างมาเราดูรีวิว #ทุ่งดอกกระเจียว ในเฟสมา ซึ่งก็ทำใจแล้วว่าบานไม่เต็มพื้นที่แบบที่คิดฝัน แล้วพอมาเห็นก็เป็นเช่นนั้น แต่ขอบอกนะว่าไม่เสียความรู้สึกหรือผิดหวังแต่อย่างใดเลย เพราะมันคือธรรมชาติ มันไม่สามารถบังคับว่ามันต้องดอกช่วงนี้พร้อมกันนี่น่า อ่ะเอาเป็นว่าดูภาพเอากันนะ พอเดินชมทุ่งเสร็จแล้วก็เดินมาที่จุดปล่อยตัวครั้งแรกที่ลงรถซาฟารี แล้วได้ยินเสียงประกาศจากเจ้าหน้าที่ว่า ใครจะไปชมมอตั้งเชิญขึ้นรถวีไอพี เราก็ เออ เออ ไปกันรีบวิ่งขึ้นรถทันที รถวีไอพีในที่นี่คือ รถบรรทุก4 ล้อ ไม่มีหลังคา มีแค่ที่นั่ง 3 แถว ซึ่งมีอยุ่หลายคันระหว่างที่นั่งไปนั้นรถก็จะกระแทกนิดๆ (เอ่อ ไม่นิดสิเยอะเลยล่ะ กระแทกจนเจ็บอ่ะ เเดดก็ร้อนมากด้วย) พอเรามาถึงจุดลงของมอตั้ง ก็เดินเท้าขึ้นไป ซึ่งเป็นอะไรที่โคตรร้อนเลยแสงแดดร้อนๆ กระทบกับหิน โห้บอกเลยว่า ความฝันที่ฉันจะไปสามพันโบกนั่นจางหายไปทุกก้าวที่เดิน แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อมาแล้วเราก็เดินไปดูมอตั้งสักหน่อยเด๊วมาไม่ถึงอ่ะพอมาถึง บอกตรงๆนะว่าถ้าป้ายไม่ชี้คือก็ยังไม่รู้ว่านี่หรอ มอตั้งที่ฉันจะมาดู ตอนนั้นคิดว่ามันก็หินที่ตั้งๆๆ ขึ้นมา อ่ะก็ทำตามประเพณีคือการเซลฟี่ตัวเองกับที่ตั้งอยู่ เสร็จแล้วก็เดินลงมาที่จุดขึ้นรถกลับ พอลงมาด้านล่างก็แวะซื้อน้ำซื้อลูกชิ้น นู่นนี่นั่น ที่จุดบริการ ก็เลยเปิดภาพดูรูป อ้าวเห้ยยยย ภาพที่เห็นคือรู้เลยว่าทำไมถึงเรียก มอตั้งเพราะในรูปมันเห็นเป็น นี่หว่า เออออออ จึงเข้าใจล่ะ

อ่ะแล้วเราก็ลงมาด้านล่าง ลืมบอกไปขาลงเราไม่ได้นั่งรถวีไอพีเปิดประถุนนะ เป็นรถซาฟารีจร้าาาาาา (โคตรโชคดีอ่ะ) แล้วก็เดินมาช้อปที่ตลาดละลายทรัพย์ด้านล่างต่อตลาดก็จะมีของขายเยอะแยะมากมาย มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ให้จับจ่ายเงินตามสภาพคล่อง ตามความตั้งใจเดิมคือ มามอตั้งล่ะ ก็อยากไปมอหด แต่เอาตรงๆพอได้เดินแล้ว เลยยุติความคิดไว้แต่เพียงแค่ตั้งเถอะ จึงคุยกันว่าไปไหนต่อล่ะหรือจะกลับเลยแต่มาไกลอ่ะนะ เลยขอไปดูอีกที่ล่ะกัน แต้น......แแต่น.....นั่นก็คือ ฟาร์มแกะร็อคกี้แลนด์ (Rockie Land) นั่นเองงงงงงงงงง (ตื่นเต้นทำไมเนี่ย)
ซึ่งไม่ไกลมากจากอุทยานป่าหินงาม

ซึ่งเสียค่าเข้าชม คนละ 50 บาท ฟาร์มนี้เป็นฟาร์มของเอกชน ภายในก็จะมีจุดถ่ายรูปมากมาย และแลนด์มาร์คของฟาร์มแกะร็อคกี้แลนด์ มีหลายจุดมากมายให้ได้ถ่ายรูป ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือการเดินข้ามสะพานไม้ ซึ่งค่อยข้างหวาดเสียว แต่ก็ปลอดภัยนะคะ พอเดินข้ามสะพานก็จะเห็นทุ่งดอกคอสมอส สีชมพูสวนสะพรั่งเต็มตา กับท้องฟ้าใสๆ แล้วที่นี่ยังมีทุ่งดอกทานตะวันสีแดงให้เราได้เดินไปชมอีกด้วย สถานที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่แนะนำหากให้ได้มีโอกาสไปชัยภูมิ ก็แวะไปเยี่ยมชมทุ่งดอกคอสมอสกันได้นะคะ แล้วไม่ได้มีแค่ดอกไม้นะตัวเธอ เพราะชื่อเค้าก็บอกว่าฟาร์มแกะ ก็ต้องมีแกะสินะ มีค่ะมีแกะให้เราได้ซื้ออาหารให้น้องแกะ แต่น้องแกะจะค่อยข้างหิวนะ กินรุนแรงมากอ่ะ เรานี่ต้องออกแรงในการให้มากเอาเรื่องอยู่

สำหรับทริปนี้เราก็จบด้วยการให้อาหารน้องแกะ สำหรับการรีวิวนี้หากไม่สมบูรณ์ แต่ก็ขอแชร์ประสบการณ์ในการท่องเที่ยวแบบเรียบง่ายของเราไว้ด้วยน้า
หากผิดพลาดประการใด หรือตกหล่น ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ไว้จะมารีวิวสถานที่เที่ยวต่อไปอีกครั้ง จุ๊ฟ ๆ ๆ

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง