รีวิว

ArMoO ทริปปีใหม่ลากกระเป๋าเที่ยวเมืองผู้ดีอังกฤษ

United Kingdom
วันออกเดินทาง 29/12/2017
วันเดินทางกลับ 05/01/2018
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน > 50,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม สวัสดีทุกคนค่ะ...ขอกริ่นก่อนว่าทริปนี้มีจุดประสงค์หลักคืออยากไปดูบอลแถมด้วยตะเวนกิน ก่อนอื่นที่จะต้องไปอันดับแรกคือต้องขอVisa ด้วยความที่ไปกับทัวร์จนชิน(เขาทำให้หมดไง)เลยจะดูสบายเยอะๆหน่อย คราวนี้ต้องมาจัดการเองเริ่มต้นด้วยการเข้าเว็บไซร์ http://www.vfsglobal.co.uk/thailand/thai/how_to_apply.html ทำการกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย ระบุวันเวลาที่จะเข้าไปยื่นเอกสาร แล้วก็ไปตามนัดเลยค่ะ เรื่องเอกสารขอยื่นใช้เวลาแป็บเดียวเร็วเกินคาด 4-5วัน ก็ทราบผลแล้ว

พอวีซ่าผ่านเราก็ทำเรื่องจองตั๋วเครื่องบินได้ราคาที่พอใจก็จองเลยค๊าาา ก่อนไปก็ทำการบ้านโดยทำการจองที่พัก ร้านอาหาร ตั๋วดูบอล ตั๋วรถไฟ ตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปเราซื้อตั๋ว (London Eye) ไว้เลย พร้อมแทบจะทุกอย่างก็เก็บกระเป๋ารอถึงวันเดินทาง
49K views
วันที่
1

29 ธันวาคม 2559 ก็ถึงวันเดินทางโดยสายการบิน EVA Airlines ไฟร์เราออกช่วงเช้าถึงก็ช่วงมืดๆหน่อย ด้วยความที่เดินทางเอง ไปถึงก็ต้องไปหาที่พัก อยากจะบอกว่าสมบุกสมบันพอสมควร เนื่องด้วยจองที่พักแล้วต้องนั่งรถไฟต่อหลายสถานี

กระเป๋าก็ใบใหญ่คนละใบ ถึงเวลาขึ้นลงบันไดก็จะงานเข้าเพราะยกไม่ไหว555+ แต่โชคดีมากมีคนท้องถิ่นช่วยยกตลอดทั้งขาไป-ขากลับ....ขอบคุณจากใจจริงๆ เพราะลำพังมาคนเดียวคงจะทุลักทุเลน่าดู ด้วยอากาศที่หนาวมากกกก ประสบการณ์วันแรก หึหึ ครั้งหน้าน้องขอมาไฟล์มืดแล้วถึงเช้านะ ไม่ไหวจริงๆอากาศแบบนี้พร้อมกระเป๋าใบโต๊โต

วันที่
2

เช้าตรู่วันที่30 เริ่มต้นด้วยมื้อเช้าตรู่มากที่ร้าน Duck&Waffle อยากจะบอกว่าร้านนี้ถ้าจะมาจองมาก่อนน๊าาา จองได้ล่วงหน้า3เดือน ไปถึงก็ต้องสั่งเมนูยอดนิยม Duck&Waffles อยากจะบอกว่าอร่อยมากกกก เป็ดเนื้อนุ่มละมุนแต่หนังกรอบพร้อมซอสเข้ากันดี๊ดี ร้านนี้ใครมาลอนดอนร้านนี้อย่าพลาดน๊าาา

กินเสร็จก็มุ่งหน้าไปสถานีรถไฟเตรียมตัวไปเมือง Bath เนื่องจากน้องสาวเรียนอยู่ที่นี่เลยต้องมาหาสักหน่อย ใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ3ชั่วโมง

แต่ชิวมากเพราะเราจองที่นั่งแบบ First Class มา มีน้ำและขนมให้ด้วย แถมบรรยากาศข้างทางดีมากกกก ระหว่างการเดินทาง 3 ชั่วโมงถึงว่าแป็บเดียวมากๆ เพราะทั้งวิวสวยๆ นั่งฟังเพลงเพราะๆ ทานขนม ถ่ายรูปเล่นดูเพลินๆไปเลยเผอิญแป็บเดียวก็ถึงเมือง Bath แล้ว

เราใช้เวลาในเมือง Bath ในการเดินเล่นถ่ายรูป เดินช้อปปิ้ง เดินดูของตามร้านค้าต่างๆซึ่งก็มีหลากหลายมากซึ่งเดินไม่ไกลจากสถานีรถไฟเลย หาง่าย

มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง ร้านการ์ด ของที่ระลึก เมืองดูมีความคลาสสิค คนไม่มากบรรยากาศเลยดูสบายๆ


ถ้าใครมาที่นี่มีเวลาจะซื้อตั๋วเข้าไปใน Roman Bath ก็ได้ แต่ด้วยความที่เคยเข้าไปใน Roman Bath แล้วเราเลยเอาเวลาไปเดินชมเมืองเพลินๆ เข้าโบสถ์ซึ่งสวยงามมาก

เดินไปเดินมาเริ่มหิว...มองหาร้านอร่อยๆ บังเอิญที่นี่มีสาขาของร้าน Burger & Lobster เปิดพอดีช้าอยู่ใย......


รีบเข้าไปจับจองที่นั่งซึ่งมีเพียบบบบ เลือกโต๊ะมุมตามใจชอบ

หลังจากดูเมนูเสร็จเราก็ได้ลองสั่งเมนูแนะนำไปเลย รสชาติแจ่มว้าวววมากมาย

ใครมาลองมาจัดดูใครอยากรู้รสชาติเป็นยังไงต้องมาลอง แต่ตอนที่ไทยก็มีแล้วไปลองกันได้เหมือนกัน

กินเสร็จก็เดินเตร่ๆถึงบ่ายค่อนเย็นก็กลับมาลอนดอนมุ่งหน้าสู่ London Eye


บรรยากาศยามค่ำคืนก็ดูโรแมนติกดี มืดๆคนก็ยังเยอะอยู่พอสมควรแต่ด้วยเราจองตั๋วมาแล้วทุกอย่างเลยดูเร็วขึ้นเยอะ


ขึ้นไปความรู้สึกเหมือนชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ จะรู้สึกกลัวนิดหน่อยตอนอยู่ตรงมุมสูงสุด แต่ด้วยภายในเป็นแคปซูลใหญ่ เลยไม่ค่อยหน้ากลัวอะไร ขึ้นตอนกลางคืนบรรยากาศก็จะชิวดี มองลงมาก็มีแต่แสงไฟสวยๆ ระหว่างอยู่ในแคปซูลก็จะมีช่วงถ่ายรูปพอลงมาก็มาดูว่าถูกใจเลยไหม ปรากฎรูปที่ถ่ายโอเคเลยเลยสอยมา1เล่ม

ปลื้มปริ่มได้มาอีกแล้ว1เล่ม ทุกประเทศต้องได้มา555 พอซื้อของเสร็จก็มืดพอสมควรได้เวลากลับไปพักผ่อนแล้ว พรุ่งนี้ว่ากันใหม่

วันที่
3

ว้าว....วันที่31ธันวาคม2016 วันส่งท้ายของปี เรามีแพลนไปดูบอลที่แมนเชสเตอร์ ก็ตื่นแต่เช้าไปนั่งรถไฟเหมือนเดิมมุ่งหน้าไปสนามฟุตบอล Old Trafford เลย เดินไปก็งงไปไม่รู้จะลงสถานีไหน555 สรุปคือลงตามๆคนอื่น ก็ไม่รู้ลงถูกหรือเปล่าแต่สังเกตว่ามีคนถือตั๋วก็เลยคิดว่าน่าจะไปเหมือนกันเลยเดินไป หัวเราะไป เพราะเหมือนจะหลงหาทางไปเหมือนกัน

เดินไปเดินมาถึงล่ะสนามฟุตบอล แอบดีใจ เพราะเมื่อ 8 ปีที่แล้วปี 2009 เรามาที่นี่เหมือนกันแต่ไม่ได้มีโอกาสดูบอล

แต่ปีนี้เรามาเฉพาะสิ่งนี้เลย วันนี้เรามาดูการแข่งขันคู่

Manchester United VS Middlebrough

วันนี้เราจองมาแบบ VIP ก็จะมี Gifts Set ของที่ระลึกให้คนละ1กล่อง

พอเกมส์จบก็จะมีอาหารมื้อค่ำเตรียมไว้ให้เราแบบเป็น Set course อีกด้วย

ถือว่าจองแบบนี้มาคุ้มมากกกก! ต้องให้ความดีความชอบในส่วนนี้ของคนข้างๆที่เตรียมจองไว้ให้อย่างดีเลย^___^

บรรยากาศที่เข้าไปก็ยังไม่รู้สึกอะไรมากด้วยความที่ไม่รู้เข้าไปนึกว่าจะออกมาข้างนอกได้ปรากฏเขาสแกนบัตรไปแล้วเข้าได้ครั้งเดี่ยว

ทำให้เราได้เข้าไปก่อนซะนานเลย คิดแล้วยังนั่งขำเลยเข้ามาเร็วอะไรปานนี้ พอใกล้ถึงเวลาจากเก้าอี้ที่ว่างเปล่า เต็มไปด้วยแฟนบอลละลานตามากกก

แมตช์นี้ดูไปดูมาท่าจะเกือบๆเต็มความจุของสนาม 70,000 กว่าที่นั่ง

เฮ้ยยย....เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง

คนเยอะมากกก เวลาแข่งก็ลุ้นอยู่เรื่อยๆแต่ด้วยความที่ยังยิงไม่ได้สักทีก็จะ รอลุ้นอย่างเดียว เวลาก็ผ่านไป


เขาก็นำไปแล้ว1ลูก ตอนนาทีที่67 คิดในใจอย่าแพ้นะเราตั้งใจมาเฮ...ไหนๆก็มาแล้วสักลูกก็ยังดี

เวลาก็เหลือไม่เยอะ เฮ้ยยยย....มาแล้วลูกที่1 ตอนนาทีที่ 85 โดย Martial เสียงเฮ เสียงเพลงกึกก้องขึ้นมาทันที รอยยิ้ม เหมือนทุกอย่างสดใสขึ้นมาทันทีทันใด ถัดมานาทีเพียงเสี้ยวนาที นาที่86 ยิ่งเข้าไปอีก1ลูก โดย Pogba ทุกอย่างดูพลิกมาก เกมส์ก็ยิ่งมันเพราะเวลาใกล้หมดแล้ว ตื่นเต้นบวกความลุ้น......นึกในใจบรรยากาศมันเป็นแบบนี้นี่เอง มันมันส์มากกกก สนุกมากกกก

อีกประสบการณ์ที่ยังจำได้ดี มันมีความสุข สนุกแบบบอกไม่ถูก ถึงเวลาเกมส์จบก็ไปทานอาหารที่ Red Cafe ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม ร้องเพลง ส่งเสียงกันเป็นระยะๆ พอทานอาหารเสร็จเราสองคนก็ต้องเดินทางกลับไปลอนดอน ด้วยความที่แฟนบอลเยอะมาก กว่าจะถึงสถานีรถไฟเกือบไม่ทันนน แต่ยังมีโชคดีคือทันเวลาไม่งั้นได้ขึ้นลงหลายขบวนแน่ๆเลย

จบไปอีก1วันพร้อมรอยยิ้มความมันส์และความทรงจำดีดีที่ Manchester ในวันสุดท้ายของปี แฮปปี้มากมายยย

วันที่
4

เริ่มต้นวันแรกของปี2017 ด้วยการช้อปปิ้ง วันนี้จุดหมายปลายทางของเราคือ Bicester Village

ที่นี่ถ้าจะให้บรรยายคร่าวๆก็เป็นเหมือน Outlet บ้านเราแต่จะเพรียบพร้อมไปด้วยแบรนด์เนมสารพัดยี่ห้อ สินค้าบางส่วนเท่าที่เห็นคือเป็นรุ่นของซีซั่นที่ผ่านมาแล้วก็จะย้ายมาขายที่นี่ เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนมที่เมืองไทยเกือบแสน แต่เมื่อมาอยู่ที่นี่พร้อมด้วยราคาลดหน่ำซัมเมอร์เซลล์เหลืออยู่ไม่กี่หมื่น

เห็นแบบนี้แล้วไม่ได้โม้น่ะแต่ลดเยอะมากจริงแค่เวลาขายต่างกันประมาณ 5 เดือนกว่าๆเอง เดินไปเดินมาเลยได้ติดไม้ติดมือมากี่ใบเราไม่ขอพูดถึงละกัน ^___^ แล้วแต่ความชอบและถูกใจของแต่ละคน

เดินช้อปไปสักพักเริ่มหิวไปแวะทานอาหารจำชื่อร้าน Villandry Bicester Village ชอบเมนู Fish&Chips กับ Duck Confit มากกก ถึงกับต้องสั่งเพิ่มอีกตามเคย อร่อยจริงๆน๊าาา เป็ดกรอบนอกนุ่มในพร้อมผักดองเข้ากันดี๊ดี เมนูจากปลาก็สดอร่อยมากก

เดินเมื่อยได้ที่ก็นั่งรถกลับเมืองแวะไปสนาม Emirate Stadium แวะสัมผัสบรรยากาศที่นี่บ้าง

คนในรถไฟมาเต็มทุกคน เสื้อใส่กันมาพร้อมด้วยความที่ไม่ได้เป็นแฟน Arsenal เลยไม่ได้จองตั๋วดู

แต่พอมาถึงบรรยากาศแบบนี้น่าดูมากแอบเดินวนๆเผื่อมีคนขายตั๋ว เดินไปก็จะมีคนยื่นพูดลอยๆ Anyone sell ticket??

คงประมาณว่าหาตั๋วเหมือนกัน เดินสักพักไม่มีวี่แววคนขายเลยกลับเข้ามาในลอนดอน



เข้ามาในลอนดอนอีกรอบเรา ไปเดิน ห้าง Harrods, Selfridges ก็หาข้าวเย็นกินเดินชิวนิดหน่อยขอตัวพักขาที่โรงแรมก่อนสภาพขานี่แบบเมื่อยมากกกก

วันแรกของปีอยากจะบอกสุดท้ายว่า...ฝนตกทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ด้วยความพร้อมมากไม่มีอุปกรณ์กันฝนใดๆทั้งสิ้น สภาพกลับโรงแรมก็ดูจะเลอะๆหน่อย^___^

วันที่
5

วันที่2 ของปีเช้านี้มาประเดิมที่ Camden Town เพื่อมากินอาหารเช้าที่ Cereal Killer Cafe Camden บรรยากาศร้านก็ดูน่ารักดี มีสารพัดแบบCereal, ชนิดของนม,ท็อปปิ้งไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ถั่ว คุกกี้ ช็อกโกแลต สารพัดจะมีให้เลือก หน้าตาคนได้มากินก็จะฟินๆตามรูป

ทานเสร็จก็เดินเดินเตร่ๆๆอยู่บังเอิญไปเจอร้านรองเท้าสวยมากกกกก เข้าไปดูว้าวรองเท้านางซินของแท้ ไหนๆขอลองหน่อย ได้ด้วย เสร็จเรา...ซื้อไว้ใส่งานแต่งงานอีก3เดือนข้างหน้า ความพิเศษนอกจากกลิตเตอร์จะฟรุ้งแล้ว พื้นรองเท้ายังมีความสวยมากเป็นลาย Cinderella แถมเวลาเดินจะมีไฟวิ้งๆๆขึ้นมาด้วย 555+ สารพัดขนาดนี้หิ้วมาได้1คู่จาก Camden Town

ตกบ่ายเราก็หาข้าวกิน เดินเล่น ช้อปปิ้งที่ Oxfords Street

ถนนประดับตกแต่งสวยเลย

ของก็กระหน่ำเซลล์เยอะเหลือเกินไปทั้งเสื้อผ้า เสื้อโค้ท ผ้าพันคอ ของกระจุกกระจิก กลับมา ด้วยความที่หนักเลยแวะเอามาเก็บที่โรงแรมก่อนที่เตรียมตัวไปงาน


Winter Wonderland

งาน Winter Wonderland

อารมณ์ประมาณสวนสนุกกลางคืนแถมมีการตกแต่งไฟสวยหลายจุดเลยมีมุมให้ถ่ายรูปได้เยอะแต่อากาศก็เย็นฝุดๆ

ของกินก็แน่น เครื่องเล่นก็เพียบ เลือกไม่ถูก ก็เลยเดินไปเรื่อยชอบอะไรก็แวะ ชิวดี

งานที่นี่จัดช่วงฤดูหนาวมาไม่ยาก

ถ้าพอมีเวลาช่วงปลายปีลองแวะมาที่นี่ถ่ายรูปก็จะได้อีกบรรยากาศนึงในการท่องเที่ยว

วันที่
6

วันที่3 เราแวะไปถ่ายรูปที่สนาม Wembley ซึ่งเป็นสนามที่จุคนดูได้มากที่สุด พอถ่ายรูปเสร็จก็แวะเดิน Outlet ใน Wembley ส่วนใหญ่เป็นแนวกีฬา วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากเดินหาของกินไปเรื่อยๆ ชอบอะไรก็ซื้อได้ของ SuperDry มาเยอะมากเนื่องจากลดราคา วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากเดินเก็บตกซื้อของฝากเตรียมแพ็คกระเป๋ากลับบ้านเรา

ช่วงเวลาของการเดินทางเกือบอาทิตย์อยากจะบอกว่าเหตุผลในการทำงานของเราก็เพื่อเก็บเงินมาท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ในชีวิตแบบที่เราอยากให้เป็น อยากพักแบบไหน อยากกินอะไร อยากไปที่ไหนบ้าง อยากช้อปอะไร

เราก็สามารถเลือกตามแต่ใจเราต้องการ รีวิวนี้เพิ่งจะเขียนขึ้นมาหลังจากไปเที่ยวมาจะเกือบปีอาจมีบางอย่างเขียนตกหล่นคาดเคลื่อนไปบ้างแต่ก็อยากมาแบ่งปันประสบการณ์เที่ยวเองให้ทุกๆคนได้อ่าน มาเที่ยวแต่ละทีอยากจะบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขจริงๆ เหมือนได้เจออะไรใหม่ๆ ที่อยู่เมืองไทยบางทีวันๆเราก็ทำแต่งาน มาเที่ยวแต่ละทีเราจะได้ทั้งเสียงบ่น (เมื่อยบ้าง หนาวบ้าง แพงจัง ถูกมากกก ฯลฯ) สารพัดอารมณ์ในแต่ละทริป รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความรัก ความอบอุ่น ไปไหนก็คอยเดินจับมือกับคนเรารัก

ซึ่งท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่าประสบการณ์ท่องเที่ยวก็เป็นเหมือนบันทึกความทรงใจที่ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เราจะเป็นยังไงมันก็ยังจะคงตราตรึงในใจและบันทึกอยู่ในความทรงจำของเราเสมอ

ArMoO AroundTheWorld
Happy Time In England

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง