รีวิว

#twosištoseoul

South Korea
วันออกเดินทาง 09/11/2017
วันเดินทางกลับ 13/11/2017
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน 20,001 - 30,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม เป็นการรีวิวครั้งแรก อาจดีหรือไม่ดี ติชมกันได้นะคะ ^^
40K views
วันที่
1

ทริปนี้เราเดินทางโดยสายการบิน Air Asia X
โดยจองตั๋วล่วงหน้า 5-6 เดือน ในราคาตั๋ว+ที่พัก 10,400 บาท ซึ่งถูกมากกกกก
ทริปนี้เราใช้บริการ Smile WiFi ค่าบริการวันละ 170*5 วัน = 850 บาท สัญญาณเร็ว ไม่มีสะดุด ทำให้ทริปนี้เราราบรื่นไปอีก กราบ _/ _
เราทำประกันชีวิตกันไปด้วย เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น ก็คุณพ่อคุณแม่รับทรัพย์ไป เราทำประกันภัยของ cigna 200 บาท

ทริปนี้เราไปกัน 5 วัน 4 คืน ซึ่งจุดมุ่งหมายของเราในทริปนี้คือล่า ใบไม้เปลี่ยนสี และมาเป็น จางอ๊กจองและ โบกอม ให้คุณแม่ 55555

ถึงสนามบินอินชอน ขอบอกว่า ตม.ผ่านง่ายกว่าสอบ กพ. ท้องถิ่นอีกกกกกกก ไม่ทงไม่ถามอะไรซ๊ากคำ ซึ่งก็ถือว่าดี ฮ่าๆๆๆ หลังจากผ่าน ตม. รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าไปมินิมาร์ททันที ซื้อบัตร T-Money และของกินหลังจากหลับบนเครื่องเป็นตาย ตาเปิดปุ๊บก็ต้องหาอะไรเข้าปากกันหน่อยยยยย

คอกาแฟอย่างเราๆๆ ก็ต้องอัดคาเฟอีน ถูกมั้ยยยยยยย !!!! รสชาติอร่อยดีนะ พอทำให้ตาตื่นพร้อมลุยทริป ราคาก็อยู่ที่ 1,xxx วอน ประมาณ 30 กว่าบาท

ส่วนที่พักนั้น เราเลือกย่านฮงแด เพื่อความสะดวกในการเที่ยวกลางคืนนน 5555 ซึ่ง Duriworld ตอบโจทย์เรามาก ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว สะดวก สบายซู้ดดดดดดดด

การเดินทาง : โดย subway
นั่งจากสนามบินยาวๆมาลงที่สถานี Hongik Univ. ทางออกที่ 2 ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเอง นั่งกันยาวๆ ไม่ยุ่งยาก ละก็เดินตามแผนทีไปที่พักได้เลย ง่ายๆ

การเดินทางของเกาหลีดีตรงที่ว่า มันจะถึงกันหมด ออกทางไหนก็เจอ วนไปวนมา ไม่ต้องห่วงการหลงทาง หรือการฟิกเส้นทางใดๆเลย (การหลงทางคือลาภอันประเสริฐ เพราะมันจะทำให้เราได้ค้นพบเส้นทางใหม่ๆ 5555 )

บรรยากาศที่พักเป็นเกสเฮ้าส์ ซึ่งเราต้องการแลปเปลี่ยนวัฒนธรรมและเซมันนี่ เลยเลือกห้อง 6 เตียง ซึ่งก็ไม่ได้คับแคบมากจนเกินไป มี 5 ห้องนอน 1 ห้องน้ำรวม มีโต๊ะกลาง มีมุมครัวให้เราทำอาหารทานเองได้ ซึ่งก็ไม่ได้คับแคบและวุ่นวายจนเกินไป จะมีบรรยากาศคร่าวๆมาให้ดูกันนะ

เก็บประเป๋า แต่งหน้าเสร็จก็ตะลุยฮงแดกันเล้ยยยยยยย อย่างที่บอกว่าเดินข้ามฝั่งไปก็เจอแหล่งช้อป กิน บันเทิงละ ก็ไปหาอะไรกินกันนน ฮงแดไม่ต้องอธิบายไรมากมายเนาะ ซึ่งร้านรวง ร้านเครื่องสำอางค์เอย ร้านอาหารเอย ร้านรองเท้าเอย เพียบบบบบบบบบบ แหล่งละลายทรัพย์ดีดีนี่เอง ที่สำคัญ เด็กๆอปป้าก็น่ากินกันทั้งน๊านนนนนนน แต่... กล้องอาจไม่ค่อยมีรูปออป้าเท่าไรนะคะ เพราะเราได้ทำการแทะโลมอปป้าด้วยสายตาของเราแล้วววววว 555555

บรรยากาศคร่าวที่ฮงแดนะคะ ก็จะมีการมาเต้นของเหล่าอปป้า สาวๆ คนยืนดูกันปั่นกะยืนดูดารานักร้องกันเลยยยยย

อาหารมื้อแรกที่เกาหลี
ตามพิกัดร้านมาที่ ร้าน โอปป้ากบชั่ง เป็นบุฟเฟต์ในราคา 9,900 วอน ก็ประมาณ 300 บาทค่ะ ร้านหาง่ายมากค่ะ ตามพิกัดแผนที่ได้ได้ทำข้อมูลมาก่อนหน้านี้ก็มุ่งตรงกันไปเล้ยยยยยยยย แต่หมูที่นี่เค้าไม่หมักนะคะ รสชาติเลยจืดๆหน่อย ส่วนตัวคิดว่าเรากินบุฟเฟต์กันไม่คุ้มเลย 55555

หลังจากกินบุฟเฟต์เสร็จเราก็ไปเดินย่อยจนทั่วฮงแดกันเลยทีเดียว อยู่ยันฮงแดปิดร้าน แต่เดี๋ยวก่อนนนนนนนนนนน ยิ่งดึกมันยิ่งคึกคักนาจาาา เหล่าอปป้า นูน่า ออนนี่ มายืนต่อแถวเข้าร้านเหล้า เข้าผับกันยั้วเยี้ยเลยยยย 5555

ลาคืนแรกที่โซลกันไปด้วย คนไทยสไตล์ เบียร์คนละ 1 กระป๋องกับพี่สาวเพราะต้องเก็บแรงไปสวนฮานึลวันพรุ่งนี้เช้า

และความติ่งมันอยู่ในสายเลือดค่ะ !!!!!! เดินมาเจอโปสเตอร์สามี ก็จะต้องแวะให้มินิฮาร์ทกันหน่อยอะ ฮืออออออ ดีโอของออนนี่ !!!!!

วันที่
2

โซล : 2 เริ่มกันที่สวนฮานึล
การเดินทาง เริ่มจากนั่งรถไฟใต้ดินสาย 6 ลงสถานี World Cup Stadium ทางออกที่ 1 ขึ้นมาก็จะเจอ Seoul World Cup Stadium เดินเลี้ยวขวามาเรื่อยๆเลยนะคะ เดินมาจนถึงแยกที่มองไปเจอสะพานสีฟ้า ซึ่งในรีวิวหลายๆทีก็จะบอกให้เราเดินไปข้ามที่สะพานสีฟ้านั่นแระค่ะ เพื่อที่จะขึ้นบันไดไม้ 290 ขั้น !!!!!! ซึ่งจริงๆแล้วไม่ต้องเดินไปตรงน๊านนนนนนน เราเลี้ยวข้ามเพื่อไปยังรถกอล์ฟกันได้เลยค่ะ (ถ้าอยากรีบขึ้นไปถ่ายรูป) หลังจากที่เราเชื่อรีวิว เราเดินขึ้นบันไดสวรรค์กันเพื่อ!!!!! ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ

แล้วด้วยการที่เราไปแต่เช้ามากกกกก รถกอล์ฟยังไม่ทำงาน WTF!!!!!! เจออาจุมม่ามาเดินออกกำลังกายเราก็ถามไปว่าทางไปสวนฮานึล อาจุมม่าก็บอกว่า ขึ้นทางบันได หรือ เดินอ้อมบันไดไปก็ได้ เรากะพี่เลย ปะ!!! เดินอ้อมขึ้นไปเรื่อยๆกันเถอะ เห็นบันไดละ สูงจัง !!!!! เลยตัดสินใจเดินอ้อมขึ้นค่ะ ระหว่างทางก็จะมี อาจุมม่า อาจ๊อชชี มาเดินออกกำลังกายกันแต่เช้าเลย อากาศดีๆ เดินชิวๆละกันเนาะ ปะ เลท โกววววววววว

และด้วยความที่ว่า 1.2 KM !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ใกล้ๆเอ๊งงงงงงงงง จะเดินขึ้นบันไดให้ขาสั่นทำไม๊แกร๊ !!!! เอาละ เดินไปคุยไป เสมือนมาออกกำลังด้วยการสวมเสื้อโค้ทยาวหนาๆ มาออกกำลังก็ต้องสวยไว้ก่อนไปอีกงี้อะ 555555

หลังจากป้าย 1.2 KM เดินมาได้ซักพัก เหยยยยยยยยย มันไม่น่าจะใช่นะ ระยะทางก็เริ่มเพิ่มระดับความชันขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ใช่การเดินชิวๆละค่ะ !!

เพิ่มระดับมาที่การไต่เขาขั้นแรก การก้าวขาของเท้าเริ่มหนักหน่วง ความหนักเสื้อโค้ทยาวเริ่มมา หน้าที่แต่งตั้งแต่ตี 5 เริ่มซีดและยังมองไม่เห็นจุดหมายปลายทาง 55555555 เริ่มหันไปบ่นกับพี่ด้วยความเหนื่อย .. 1.2KM แม่งไม่มีจริงงงงงงงง

แล้วด้วยความที่หยุดก็ไม่ได้ ไปต่อก็ไม่ไหวมั้ยคะ ???? หันไปบอกพี่ว่า มึงช่วยเปิดเพลงเกาหลีให้กูฟัง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กูหน่อยเด้ !!!
พี่สาวก็จัดเพลงมาเล๊ยยย GOT 7 Never Ever ไปอีกกกกกก กูเต้นแม่งงงง กูเหนื่อยเว้ยยยยยยยย อยากสะบัดโค้ทยาวหนาอุ่นทิ้งจังเลยค่ะซิสสสส !!!!!!
.
.
.
ภาพด้านล่าง คือแบบหมดสภาพจริงๆๆ เหนื่อยจนงอแง ไม่อยากไปละ สวนฮานึลลล ขอนอนพักกาย พักใจซักพักกกกกกกกก TTTTT
(ปล. เดินไปครึ่งทางละได้ยินเสียงรถกอล์ฟกำลังขึ้นเขามาค่ะ ขนาดรถกอล์ฟยังค่อยๆไต่ระดับขึ้นมา ละผ่านเราไปแบบไม่เหลียวแล มีคนนั่งมา2คน ซึ่งงงงงงงง ทำหน้าโปรใส่เราทำไม ทำไมต้องร้ายยยยย อ่านความคิดออกเลยว่า เดินขึ้นคงเหนื่อยมากสินะ !!!!! ตอนนั้นอยากเอาแบงค์ 50000 วอนปาใส่หน้าคนขับแบบรับเราไปที Pls!!! _/ _ )

กัดฟันเดินขึ้นเขามาจนถึงในที่สวดดดดดดดด หน้ามันก็จะซีดๆเหนื่อยๆหน่อยอะ ถึงสวนฮานึลแล้ว วิวสวยงามมากจริงๆๆๆ สมกับที่เหนื่อยไต่เขาขึ้นมา!!! ขอสูดโอโซนให้เต็มรูจมูกบานๆๆ ละเราจะมาลุยถ่ายรูปกันนาจาาาาาาาา

หลังจากถ่ายรูปเพลินๆไป 50 กว่ารูป
ก็ถึงเวลาลงเขากันแล้วววว

เห็นวิวด้านล่างนั่นมั๊ยคุ๊ณณณณณณณณณ !!!!
นั่นละค่ะ คือระดับความสูงที่เราไต่กันขึ้นมา ความรู้สึกเหมือน คุณคือผู้พิชิตยอดเขาฮานึล !!!!!!!!! เราจะเดินไปกับพี่ตูนงี้อะค่ะ 555555 หัวเราะทั้งน้ำตา จริงๆ

แต่ขากลับน๊านนนนนนนนน ไม่เดินแน่นอนค่ะ !!!!!!!!!!

มุ่งไปยั่งตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ ละใช้เงินแก้ปัญหาค่ะ 555555 (งานถนัดนัก) ขากลับตั๋วอยู่ที่ 2000 วอน แต่ถ้าไปกลับจะอยู่ที่ 3000 วอน ฮึๆๆๆๆ ยิ้มมุมปาก

หลังจาก เราคือผู้พิชิต ยอดเขาฮานึลกันละ เราต้องมาเพิ่มพลังกันต่อ!!

วันนี้เรามาแพลนมากิน แฮมเบอร์เกอร์ ของ LOCO #AOMG

การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงสถานี Hapjeong ทางออก 3
ร้านเปิด12:00~22:00 ศ-ส เปิดถึง5ทุ่ม วัน ศ-ส มีดีเจมาเล่นตั้งแต่1ทุ่ม

ซึ่งเราก็เดินเลี้ยวผิดซอยนั่นละ 55555 แต่ไม่ต้องกลัวไปน๊าาา ให้คุณลุงกู (กูเกิ้ล แมพ) ช่วยเลยค่ะ ง่ายมั่กม๊ากกกกก อย่างที่บอกไปว่า มันสามารถทะลุซอยกันได้หมด ไม่ต้องเชื่อตามที่รีวิวกันมาเนอะ

บรรยากาศภายในร้านจะเป็นกระเบื้องสีขาว คลีนๆ พนง.หน้าตาดีๆรอ บริการเราอยู่นะยูววววว เพลงในร้านก็ดีงาม เพิ่มอรรถรสในการสั่ง การกินเพิ่มไปอีกเท่าตัวเลยย

เราสั่งแฮมเบอร์เกอร์ชีสคนละ 1 เพิ่มบ๊อกเซ็ทเฟรนฟรายส์+สลัด+โซดา ไปอีกคนละ 1

รสชาติกันมั่งดีกว่า เต็ม 10 ให้ 10 เลย เอ๊า!! ไม่ได้อวยเพื่อนๆสามีแต่อย่างใดเลย
เริ่มที่ตัวเบอร์เกอร์ นุ่มมากกกกก เหมือนฟองขนมปังอะ
เนื้อเบอร์เกอร์ก็ฉ่ำน้ำ ไม่แห้งจนแข็งเกินไป กัดแต่ละคำ มันละลายในปากอะ มีความฉ่ำน้ำของมะเขือเทศและน้ำของชิ้นเนื้อ ฮึ่มมมม น้ำลายไหล
มาต่อที่เฟรนฟรายส์ไซส์เรียว แต่กรอบทุกชิ้น โดยรวมถือว่า ดี๊ย์ !!!!

(ต้องอวยกลุ่มๆสามีกันหน่อยอะ ไม่มากเกินไปเนอะ 555)

แล้วร้านบริเวณนี้ก็จะคึกคักไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ เยอะแยะไปหมด เดินเพลิน น่าเข้า น่ากินไปซะทุกร้าน แต่ โนวๆๆๆๆๆ เรามาเพื่ออปป้าค่ะ 55555
เดินลัดเลี้ยวมาก็เจอร้าน sooni hawaii ที่น้องผักเล่นอะค่ะ ความติ่งเรามีมากล้นจริงๆๆๆ

หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราก็ต้องไปต่อค่ะ วันนี้เรามาสายธรรมชาติละ เราต้องไปให้สุด !!!!!

ซึ่งทริปเกาหลีเริ่มแรกเราจะมาตามรอย ก๊อบลิน 55555 แต่แพลนไว้นานมากเหลือเกินพี่จ๋าาาา มันก็ห่างหายกันไป แต่ดั๊นนนน เปิดไปเจอรีวิวว่า มีทุ่งบัควีตแถวแม่น้ำฮันนี่เองงง เอ๊า ยังไงอะ ก็ไปดิ๊ อยากเป็นลุงก๊อบลินกะนางเอกงี้อะ

ตามที่หาข้อมูลมา
การเดินทาง นั่งใต้ดินไปลงสาถนี DongJak ทางออกที่ 1 ละเปิดลุงกูตามแมพกันไปเลย
นี่คือภาพแรงบันดาลใจนะคะ

ละ 2 ภาพบน ยืมมาจากในทวิตเตอร์นะคะ คือสิ่งที่เราคิดว่าจะต้องไป ต้องไปให้ได้ !!!!!!!!!!! ระยะทางก็เดินไกลหน่อยๆ ไม่มีร่มไม้เลย ลมแรงแล้วฝนก็ทำท่าจะตกลงมา

ละนี่ก็คือเส้นทางข้ามไป อีกแค่นิดเดียวจริงๆค่ะ จะได้เห็นทุ่งบัควีตแล้ว แต่แล้วฝนก็เทกระหน่ำลงมา เหมือนแกล้งกันนนน เราลยต้องไปหลบฝนที่อุโมงค์ ซึ่งลมแรงมากกกกก เย็นมาก และฝนก็ตกแรงมากเช่นกัน

นี่คือผลของการไม่เช็คสภาพอากาศก่อนออกจากที่พัก TT

วันนั้นเลยเฟลไปเลยค่ะ ติดแหงกที่อุโมงค์ประมาณ 20 นาที ก็ต้องลุยฝนหาทางกลับ ซึ่ง ไม่มีที่ให้เราหลบฝนกันได้เลย

X นกทุ่งบัควีต X

เราถอยกลับมาตั้งหลักกันที่พักใหม่ เปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของกัน แล้วเราก็ต้องไปต่อค่ะ !

เราไปกันที่ Ewha Woman Univ. ซึ่งห่างจากสถานีที่พักไป 2 สถานีค่ะ เราจะไปช้อปปิ้งไอเทมเล็กๆน้อยๆ มาใช้ในวันถัดไป 55555 ก็ได้ของมาเล็กๆน้อย เสื้อคนละตัว 2 ตัว ไปชมบรรยากาศรอบๆ ม.หญิงล้วนอันดับ 1 ของเกาหลีกันเล๊ยยยยยย
.
.
เป้าหมายร้านแรกเราคือ Star 101 แหล่งละลายทรัพย์เสื้อผ้ามาก เดินเข้าร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ จงท่องไว้ว่า สติ!!!!!!

จะไปเดินที่ไหนก็ได้ แต่ต้องกลับมาตายรังที่ฮงแด

อยู่จนฮงแดปิดทุ๊กกกกวัน วันนี้มากินไก่กับเบียร์ ที่ร้าน Cultwo Chicken
สั่งไก่ 1 เซต + เบียร์อีก 2 เหยือก สั่งจนอปป้าตกใจ เดินมาถามย้ำมา 2 ?? เราก็พยักหน้าไปว่า 2 ละนางก็ถือเหยือกเปล่ามาให้ดูอีกทีว่า ชัวร์นะ??
เราก็ ข่าาาา ชัวร์ข่าาา เราหิวเบียร์ข่าอปป้าาาา ปัลลี่ !!!!!!!!!

แล้ววันนี้อากาศเย็นมากกกก หลังจากฝนตก ลมแรงสุดดดดด แต่ในร้านอุ๊นอุ่น อบอวลไปด้วยเหล่าอปป้ามาเชียร์บอล กินเบียร์ กินไก่ แต่ไม่กินตับ 55555
นั่งชิวๆกินเบียร์ไปเรื่อยๆๆ เบียร์เอามาทิ้งไว้ 2 เหยือกก็ยังไม่หายเย็น

อิ่มมาก อร่อยมาก กลับออกจากฮงแด ตี 1 กว่าๆ ล้มเลิกความจะไป แดนซ์ ออนเดอะ ฟลอร์ ไปก่อน เพราะลมแรงม๊ากกกกกกก หนาวปากสั่น ขาสั่น เดินกลับที่พักแทบไม่ไหว

วันที่
3

โซล : 3 ZAPANGI

การเดินทาง : Mangwon ทางออก 2 เลี้ยวขวาเดินเข้าซอยมาเรื่อยๆๆๆๆๆๆ 2 ข้างทางจะเป็นร้านค้าผัก ผลไม้ คล้ายตลาดสดบ้านเรา แต่ไม่เฉอะแฉะค่ะ พื้นแห้ง ไม่มีกลิ่นนาจา เอาละ ตะลุยคาเฟ่สีจมปูว กันนน
.
.
ทีเด็ดคือ ทิรามิสุมาในรูปแบบกระป๋องกดน้ำอัตโนมัติค่ะ ไม่หวานเลี่ยนมาก เนื้อละมุนลิ้นมากค่ะ

.. และทีเด็ดอีกอย่างคือออ อปป้าทำโดนัท งานดี๊ย์ อะ หุ่นอวบๆสเปคอะค่ะ เขิลจนไม่กล้าถ่ายรูปมา เขิลมากจริงๆ อยากได้อะ 55555

ก่อนจะไปเดินกันต่อที่ กาโรซูกิล ก็เกิดเหตุ เมมกล้องเต็มมมมมม WTF ! ละคือลืมเอาอีกเมมมาอยู่ที่พัก ใจก็แบบไม่อยากต่อละอะ เพราะต่อจากนี้ต้องไปตึก Seoul Sky อะ ถ้ากล้องถ่ายรูปไม่ได้ก็หมดหนุกอะ หาทางไปซื้อเมมกล้องกันที่ Lotte Mall แถว Seoul Sky ไปเลยกะกัน เป็นวันที่วุ่นวายมากจริงๆๆ
.
.
.แต่ก็ยังมีกะจิตกะใจกดหยอดตู้ กาชาปอง 555555 หมดเวลาไปตรงนั้นประมาณ ครึ่งชั่วโมง

ตึก Seoul Sky ที่เราต้องขึ้นไปชมวิววววว

แต่ด้วยที่เราตามล่าหาเมมกล้อง เดินหลงห้าง หลงชั้นจนเจอเมมแล้วนั้น เราก็ทำการไปซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปชมวิวสูงสุด แต่!!!!!!

รอบที่เราอยากขึ้นไปชมวิว พระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งมันสวยมาก เต็ม!!!!!!!เราจะได้ขึ้นกลังจากนั้นก็พระอาทิตย์ตกไปแล้ว เป็นการ นกครั้งที่2 ของทริป

X นกSeoul Sky

เราเลยเดินดูไฟรอบๆตัวห้างแทน ไหนๆก็นกละ ขอเดินดูห้างบ้านเค้าหน่อยก็ได้ ใหญ่โตอะไรขนาดนี้ !!!!!

ถ่ายรูปกันซัก 20-30 รูปก็ขอลาไปตามเส้นทางของเรา 5555

คืนนี้เรามา The Henz Club ซึ่งจริงๆตั้งใจจะมาตั้งแต่วันแรก แต่ไปผิดที่ หาตั้งนานนนนน ที่ไหนได้ อยู่กันคนละ Starbuck ข่าาาาาาาา ไม่มีป้ายหน้าร้านใดๆ มีแค่อปป้าแนวๆตั้งโต๊ะเก็บส่วย 555 เก็บค่าเข้าเงียบๆเหงาๆคนเดียว หลังจากเราเช็คพิกัดจนแน่ใจว่าชัวร์แล้ว เราก็เข้าไปยื่นพาสพร้อมเงินเข้าคนละ 15000 วอน พร้อมได้บัตรดริ้งค์มา 1 ใบ หลังจากนั้นเราก็เดินลงมาชั้นใต้ดิน เป็นที่เล็กๆไม่ใหญ่และคนแน่นเหมือนพวกผับ NB COCOON แต่นี่เป็นผับแค่มีเคาเตอร์ขายเบียร์ มีบูธดีเจ และพื้นที่โล่งๆ ให้เหล่านักแดนซ์ ออกมาโชว์สเตปกัน (ผับนี้จะไม่ออกแนวอปป้ารุกเร้ามากนะคะ ส่วนตัวถือว่าชอบค่ะ)

เราก็โยกกันไปเบาๆตามทำนองเพลง ถือว่าดี มิกซ์เพลงเริ่ดดดดด แต่ผู้ที่นี่จะไม่อุกอาจแบบใน NB COCCON นะคะ นักล่าไม่ได้ทำงานในคืนนี้ 555555

(ปล. คืนที่เราไปคือวันที่ 11.11 เป็นวันป๊อกกี้หรือเปเปโร่บ้านเค้าอะค่ะ เค้าจะจริงจังกับวัฒนธรรมแบบนี้มาก ตั้งร้านขายกันจริงจัง ละที่สำคัญคือ มาเป็นคู่ !!!!!!)

วันที่
4

โซล : 4 ขอเป็นซูจี กับ โบกอม ให้คุณแม่นะคะ ^^

ทริปนี้ตั้งใตว่าจะต้องมาใส่ฮันบกเดินทั่ววัง ให้สมกับที่ดูซีรี่ย์ย้อนยุคมาเยอะ จะมาเป็น พีกุงมามะ ซังกุงสูงสุด!!!! ทุกคนต้องสยบใต้ฝ่าเท้างี้อะค่ะ 5555
เราเดินทางกันมาแต่เช้า ยังไม่ค่อยมีคนใส่ฮันบกกันเท่าไร เราก็เลยเคอะๆเขินๆแบบ เอาไงดี 5555 เลยตัดสินใจเดินดูราดราวกันก่อน ว่าจะเอายังไงกันดี

เดินกันไปสักพักก็เริ่มมาละค่ะ เหล่าซังกุง นางสนม แซจา พระราชาทั้งหลาย เริ่มเดินเข้าวังกันแล้ว เราก็ไม่รอช้าค่ะ ตามไปใส่ฮันบกกันเลยยยยย

.ร้านที่เราไปเช้าฮันบก คือร้าน Oneday hanbok คนเยอะ ชุดเยอะ พนง บริการดี ซึ่งมีแบบจองจากเว็บ แต่เรากับพี่ไม่จองมาก็ทำการเช่าหน้าร้านได้เลย
เราเช่าแบบ 4 ชม 15000 วอน เค้าก็จะพาเราไปวัดไซส์ ละให้เราเลือกชุดมาลองได้แค่คนละ 2 ชุดเท่านั้น ถ้ามากกว่านั้นต้องเสียเงินเพิ่ม
* แนะนำให้หารูปชุดฮันบก สี แบบ ที่เราชอบมาจากในมือถือศึกษาคร่าวๆมาก่อนก็ดีนะคะ ว่าจะใส่สีสดดีมั้ย สีเรียบๆดีรึป่าว จะได้ถ่ายรูปสวยๆกันเนาะ ซึ่งของเราก็ได้ทำการหารูปจากในมือถือเป็นต้นแบบ 555555 ก็คือ ซูจีนั่นเอง ส่วนพี่เรานางอยากเป็น โบกอมว่ะ 55555 ไปดุกันเล๊ยยยย
.
.

เราเลือกชุดสีพาสเทลหน่อยๆ หวานๆ ฮ่าๆๆ อยากเป็นพีกุงมามะ
แสนทะเล้นอะค่ะ ชอบมากกกกก ใส่ละแบบฟิวนางสนม ซังกุงเข้าตัว !!! 55555
.
.
. วิดีโอคอลไปหาแม่ละบอก แม่จ๋าลูกมาใส่ฮันบกแล้วนะแม่ !!!!!!!!

ก็นี่ละค่ะ !!! เซจา โบกอมของน้องงงงง
ทรงพระชิคกี้ด้าวมากกกก ใจจะให้พี่เต้นปานามาด้วยนะ แต่ก็กลัวไม่เหมาะสมกับชุดและวัง แต่ดูแว่นมันซะก่อนนนน ฮึๆๆๆ ไม่มีละค่ะ 55
.
.
. แรงบันดาลใจการแต่งตัวมาจากโบกอมมากกกก ละเราก้ได้ถ่ายช๊อตนั้นด้วย ซึ่งฮาแตก คนเดินผ่านไปผ่านก็ยังฮาไปด้วยยยย

ทำกันไปได้ไงวะ 55555

หลังจากเพลิดเพลินจากการสวมฮันบกเดินร่อนทั่วพระราชวังแล้ว ก็ได้เวลาไปหาอะไรกินกันต่อ
.
วันนี้เราก็ไปกินเบอร์เกอร์กันอีก 555555 มาเกาหลีเพื่อมากินเบอร์เกอร์เร๊อออออ

ร้านที่เราไปคือร้าน Downtowner สถานีฮันกังจิน ทางออก 3 ขึ้นขื่อว่าร้านคิวยาวเว่อร์ ไม่แนะนำคนที่หิวมากๆๆๆ มาต่อคิวเน้อ เพราะใช้เวลาอยู่เหมือนกันค่ะ

ระหว่างทางไปร้าน บังเอิญมากกกกกกค่ะ เราเจอคุณ ทาโบล Epik High กับน้องฮารุ ฮืออออออออ ติ่งมาตั้งแต่น้องยังเด็กๆ มาเจอเอาซะระยะเผาขน แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ เพราะระยะเผาจนมากจริงๆ เราอุทานเรียก ทาโบล แฟนทาโบลก็หันมายิ้มให้ค่ะ ปริ่มมมม )

ผ่านไปประมาณ 15 นาที ในที่สวดก็ถึงคิวซ๊ากที เราสั่ง เบอร์เกอร์ชีส 1 + เปปเปอร์โซดา ของพี่เป็นเบคอนชีส + โค้ก ละสั่ง เฟรนฟรายส์กาลิคชีส มา หืมมมม เฟรนฟรายส์มันดี๊ย์นะ หอม นุ่ม มากกกกก กลิ่นกระเที่ยมอ่อนๆ ส่วนเบอร์เกอร์ก็อร่อยเนื้อฉ่ำแต่ไม่เท่าร้านแรก โดยรวมถือว่าคุ้มที่ยืนต่อคิว ^^
.
.
มาทริปนี้เราติดใจน้ำเปปเปอร์โซดามากกกกกก อร่อย หอม :)

หลังจากทานอิ่มแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยัง DDP หรือ Dondaemun Design Plaza
การเดินทาง : ลงสถานี Dondaemun history & Culture Park ทางออกที่ 1 เดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ ก็จะถึงนะคะ เรามาถึงค่อนข้างเย็นมากแล้ว เลยไม่ค่อยได้ถ่ายมุมสวยๆมาเท่าไรค่ะ ตึกก็จะดูล้ำๆ อวกาศค่ะ เราก็ถ่ายรูปเสมือนว่าไป Seoul Fashion Week 555555

ดอกไม้ LED ไฮไลท์ในช่วงยามค่ำคืนของ DDP ค่ะ

ปิดท้ายของคืนนี้ก่อนจะกลับประเทศไทยบ้านเราด้วยร้านอาหารข้างทางแถวที่พักค่ะ จัดมาอย่างละจานเลยอาจุมม่าาา
ก็จะมี โอเด้ง ซุนแด(ไส้กรอกเลือด) อร่อยมากกกกกกกกก
ต๊อกโปกี และก็ คิมบับ ตบท้ายด้วยเซจู ไป 3 ขวด 3 รสขาติ เหมาะกับอากาศหนาวๆเย็นๆมากเลยค่ะ ฟินนนน

วันที่
5

มาถึงเช้าวันสุดท้ายที่เราก้อยู่โซลแล้ววว เวลา 5 วันมันรวดเร็วเหลือเกินค่ะ ตดทันยังไม่หายเหม็น ต้องกลับบ้านเราแล้ว

สถานที่สุดท้ายเรามากันที่ Ehwa Univ. มาศึกษาดูสถานที่เรียนต่อ 5555 เป็นมหาลัยหญิงล้วนที่สวยมากค่ะ บรรยากาศน่าเรียนสุดๆ อยากมีอารมณ์เป็นเด็กเกเร แล้วคุณพ่อคุณแม่ส่งมาเรียนเมืองนอก ดัดนิสัยบ้างอะ แต่ในความเป็นจริง ถ้าเกเรไม่ได้เรียนนน 5555555 บรรยากาศในตัวมหาลัยช่วงเช้าๆถือว่าสวยค่ะ มีเด็กๆวิ่งเข้าคลาส ในช่วงเช้า

มาถึงมื้อสุดท้ายก่อนไปสนามบิน เราแวะร้าน GS25 แถวที่พักค่ะ ซื้อมาม่า น้ำอัดลมมากิน ขอซึมซับความเกาหลีรัวๆก่อนกลับบ้านกันหน่อย เราติดใจน้ำ เปปเปอร์มากกกก กินทุกวัน :P

และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้านกัน กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองกันต่อไป กลับไปขยันทำงานเก็บเงินมาพักผ่อนกันใหม่

/
ทริปนี้เราหมดกันไปในงบ 2 หมื่นนะคะ รวมกิน รวมช้อปรองเท้า เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า แบบหน้ามืดตามัว โดยทริปเราก็วางเงินกองกลางคนละ 5000 บาท *2 ก็เท่ากับ 10,000 บาท ไว้กิน ค่าโดยสาร ส่วนรวมไปเลยค่ะ โดยค่าช้อปปิ้งส่วนตัวต่างหาก ทำให้งบไม่บานปลาย ไร้วงเงินเกิน 5555


สุดท้าย
ขอบคุณพี่สาวผู้เปย์ค่าตั๋วให้ และยังผู้เป็นเพื่อนร่วมเดินทาง เป็นทริปที่แบบ นอนน้อยแต่นอนนะ อึด ถึก ทนไปด้วยกัน เดิน 5 วันรวมๆแล้วก็ประมาณ 50 กิโลเมตรเลย สนุกมาก เพลินมาก เข้าใจกันมาก มีความสุขแบบไม่ต้องพูดไรมาก เหนื่อยก็พัก ละลุยกันต่อยาวๆ
.
.
ไว้กลับมาใหม่น๊า โซลลลล
#TWOSISTOSEOUL

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง