ข่าวและโปรโมชั่น

ชวนเที่ยวเมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่นกับ 8 สถานที่ท่องเที่ยวเช็คอินสุดคูล!


ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ทั้งในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม บ้านเมืองสะอาด ปลอดภัย อาหารแสนอร่อย ที่สำคัญสามารถไปเที่ยวได้ตลอดปี ไม่ว่าจะไปชมดอกไม้ ชมสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือไปร่วมงานเทศกาลท้องถิ่นในเมืองต่างๆ และที่สำคัญชาวญี่ปุ่นมีอัธยาศัยไมตรีเป็นเลิศ 

ทุกวันนี้ การไปเที่ยวประเทศ ญี่ปุ่น ก็แสนจะสะดวกสบาย เพราะ “การบินไทย” ได้ให้บริการบินตรงจากกรุงเทพฯ ด้วยบัตรโดยสารต่อเที่ยวราคาสบายกระเป๋า ลัดฟ้าแลนดิ้งเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ ซัปโปโร, โตเกียว (นาริตะ), โอซากา (คันไซ), นาโกยา, ฟุกุโอกะ ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งมีสถานที่สุดฮิต ที่นักเดินทางอยากไปปักหมุดมากมาย รวมถึงอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจอย่าง “เซนได” (Sendai) เมืองหลวงของจังหวัดมิยะงิ ตั้งอยู่ในเกาะฮอนชู ห่างไปทางทิศเหนือของกรุงโตเกียวประมาณ 350 กิโลเมตร

“เซนได” (Sendai) เป็นหนึ่งในเจ็ดของเมืองใหญ่ที่สุด บนเกาะที่ใหญ่ที่สุดของ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านการเมือง และเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และรู้จักกันดีในฉายา “เมืองแห่งต้นไม้” ในฤดูร้อนมีการจัดเทศกาลเซนไดทานะบะตะ ส่วนในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม ต้นไม้จะได้รับการตกแต่งด้วยดวงไฟนับพันดวง ในงานเทศกาล Pageant  of  Starlight เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของญี่ปุ่นแล้ว เซ็นไดเป็นเมืองที่มีอากาศอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 12.1 องศาเซลเซียส ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับสี่ฤดูกาลที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง และทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะ ในฤดูหนาว จุดเด่นขอ เมืองเซนได คือ ความสวยงามของธรรมชาติ อย่าง อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ก็ถูกจัดให้เป็น  1 ใน 3 แหล่งท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งสามารถล่องเรือชมเกาะต่างๆ และนกนางนวลได้ สำหรั บจุดชมวิวของเมือง และถือเป็นสัญลักษณ์ คือ ปราสาท เซนได หรือ ปราสาทโอบะ (Aoba) ซึ่งสามารถมองเห็นวิวของเมืองเซนไดในมุมมองแบบพาโนรามา

เล่าให้เห็นภาพรวม และความน่าสนใจของเมืองนี้กันไปแล้ว หากใครมีแพลนจะไปเที่ยวเมืองนี้และยังไม่รู้จะไปเที่ยวจุดไหนดี ขอแนะนำ 8 สถานที่หรือสิ่งที่จะเติมความสุข และไม่ควรพลาดใน “เซนได” ที่ไปแล้วต้องเช็คอิน ดังนี้
 

1. เที่ยวชมเทศกาลเซนไดทานาบาตะ




เป็นงานเทศกาลที่ให้นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูป เดินชมงาน โดยภายในงานจะมีการประดับประดาด้วยไม้ไผ่สูง และกระดาษหลากสี เพื่อขอพร  งานนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 3 วัน 3 คืน
 

2. ย่าน “คกคุบุงโจ” ถนนโจเซ็นจิ




ย่านที่เต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ เก๋ๆ น่านั่ง แล้วถ่ายรูปชิลล์ๆ อัปขึ้นโซเชียล “คกคุบุงโจ” ถนนโจเซ็นจิ เต็มไปด้วยสีสันยามราตรี ที่นี่ไม่มีคำว่าเหงา และหากมาในตอนกลางวันตลอดสองข้างทางก็มีแหล่งช้อปปิ้งให้เพลิดเพลินกันสุดๆ ไปเลย
 

3. แช่ออนเซ็น ซาคุนามิ และ อะคิอุ




เพลิดเพลินผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำพุร้อน ที่จะได้ยินเสียงน้ำไหล ช่วยให้ผ่อนคลาย ขจัดความเหนื่อยล้าที่สะสม ให้ได้ฟินในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ และธรรมชาติที่สมบูรณ์
 

4. ลิ้มรส ลิ้นวัวย่าง




ลิ้นวัวย่าง (Gyutan) เป็นอาหารเลื่องชื่อของญี่ปุ่น และมีต้นกำเนิดที่เมืองเซนไดนี่เอง เป็นเมนูนี้ที่ไม่ควรพลาดลิ้มลองความนุ่มกรุบกรอบ และกลิ่นหอมกรุ่นของถ่าน อันเป็นเอกลักษณ์รสชาติต้นตำรับ จนหลายคนติดใจ ซึ่งร้านอาหารดังๆ ในเซนได ทุกแห่ง จะต้องมีเมนูลิ้นวัวย่างไว้บริการ
 

5. ตลาดปลา มัตสึชิม่า




ตลาดนี้ ต้องเดินทางออกนอกเมืองเล็กน้อยแต่ก็คุ้มค่าที่ได้ไปเยือน โดยเฉพาะคนรักซูชิ เชื่อว่าแม้จะไกลแค่ไหน เพียงได้ลิ้มลองความสดก็แสนคุ้ม เพราะมีปลามากมายหลายแบบให้เลือกสรร จะรับประทานแบบซูชิ หรือ ข้าวหน้าปลาดิบ สด อร่อย แถมยังราคาประหยัดอีกด้วย
 

6. เซนไดไดแคนนอล




ที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ที่ การประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ด้วยความสูงถึง 100 เมตร ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ทั้งยังสามารถเดินเข้าไปในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ เพราะมีความสูงถึง 12 ชั้น ภายในมีความโอ่โถง สวยงาม ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมอย่างเพลิดเพลิน
 

7. หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก




เป็นสถานที่เรียกว่า นักท่องเที่ยว ไม่นึกไม่ฝันว่า จะได้เห็นการเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกเต็มไปหมด แถมยังเชื่อง วิ่งคลอเคลีย ให้กับนักท่องเที่ยวเก็บภาพเป็นที่ระลึก แต่ก็มีข้อตกลง ที่ต้องทำตามกฎที่เคร่งครัดก่อนเข้าชม
 

8. ปราสาทเซนได หรือปราสาทโอบะ (Aoba)




เป็นสถานที่สามารถมองเห็นวิวของเมืองเซ็นไดในมุมมองแบบพาโนรามา ที่นี่มีรูปปั้นที่มีชื่อเสียงของ ดาเตะ มาซะมูเนะ อยู่บนหลังม้า มองไปที่เมืองเซนได นอกจากนี้ ภายในยังมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับสิ่งของของเอโอบะ และร้านจำหน่ายของที่ระลึกท้องถิ่น ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปที่ระลึกหรือเป็นของฝากญาติมิตร

เล่ามาถึงตรงนี้ นี่แค่น้ำจิ้ม เพราะเมืองเซนไดยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายให้สัมผัส สำหรับคนที่รักธรรมชาติ ส่วนใครที่สนใจจะบินไปพักผ่อนหรือท่องเที่ยวเพื่อให้รางวัลตัวเอง วันนี้สามารถบินตรงสู่ “เซนได” กับโปรโมชั่น “Sawasdee Sendai” (สวัสดี เซนได) ด้วยสายการบินไทย  ที่มีเที่ยวบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน (เที่ยวไป อังคาร, พฤหัสบดีและเสาร์ ) ไม่ว่าจะบินไปคนเดียว บินไปกับครอบครัว บินยกก๊วนชวนกันเที่ยวกับเพื่อน ด้วยราคาสุดคุ้ม โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ด้วยบัตรโดยสาร ไป-กลับ ราคาเริ่มต้นเพียง 13,775 บาท/ท่าน และหากเดินทาง 4 ท่านขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 13,175 บาท/ท่าน เปิดจองแล้ว วันนี้ – 31 ส.ค. 62 เดินทางได้ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. – 20 ธ.ค. 62 #เซนไดใกล้กว่าที่คิด สนใจคลิก www.thaiairways.com

หรือเที่ยวเซนไดแบบสุดคุ้มเมื่อจองแพ็คเกจ Ohayo Sendai  กับทัวร์เอื้องหลวง ราคาบัตรโดยสารพร้อมที่พัก 2 คืน เริ่มต้นที่ 16,500 บาท/ท่าน ได้วันนี้! เพียงคลิก www.thaiairways.com
 

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)