รีวิว

[Review ละเอียดยิบ] ~ ห้วยแม่ขมิ้น กาญจนบุรี :: ขี่สองล้อไปง้อรัก พักในเต็นท์ เล่นน้ำตก ~

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
วันออกเดินทาง 06/05/2017
วันเดินทางกลับ 10/05/2017
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน 1,001 - 5,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม รีวิวน่ารักๆ ขอเชิญรับชมกันได้นะครับ
สามารถกดติดตามกันได้ที่ FB :: https://www.facebook.com/InvisiblesanePhotos

รีวิวนี้ได้แปะไว้ที่นี่ด้วยครับ :: https://pantip.com/topic/36794485
413K views
วันที่
1

คิดอยู่นาน ว่าจะรีวิวทริปนี้ดีไหม เพราะเป็นทริปที่ก่อนเดินทางมันทุลักทุเลเป็นอย่างมาก
แต่พอจบทริปแล้ว มันกลายเป็นทริปที่สุดแสนจะประทับใจที่สุดทริปหนึ่งเลยทีเดียว
กับทริป ขี่สองล้อ ไปง้อรัก...พักในเต็นท์ เล่นน้ำตก ห้วยแม่ขมิ้น(และเอาราวัณ)

ทริปนี้เกิดขึ้น 2 ครั้งในเดือน พ.ค. 2560 การรีวิวนี้ จะพยายามใส่รายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะจำได้
ที่ไม่รีวิวเลยทันทีเพราะมันแต่นอนคิดว่าจะเขียนดีไม่เขียนดี เพราะความทรงจำมันเยอะ
แต่พอมาไล่ดูรูปแล้ว ความประทับที่เราได้ ก็อยากจะแชร์ และบอกต่อ จึงออกมาเป็นรีวิวในวันนี้ครับ

ผมทำเพจไว้ด้วยนะครับ สนใจไปเป็นเพื่อนกันได้ที่ >> https://www.facebook.com/InvisiblesanePhotos


ใครที่สนใจรูป อยากเอาไปใช้งาน ขอให้เข้าไปดูได้ที่เว็บ SS นะครับ
https://www.shutterstock.com/g/Invisiblesane



หมายเหตุ::
** รูปที่นำมาใช้ในรีวิวนี้ถ่ายจาก Nikon D90 และ iPhone 6s+ นะครับ
พอย่อรูปแล้วบางทีอาจจะมีขนาดที่ไม่เท่ากัน อย่าเพิ่งรำคาญกันเด้อพี่น้อง**

Intro... ที่มาของทริป


เหตุการณ์ทั้งหมดมันเริ่มต้นก่อนวันเกิดเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมเองครับ
โดยเธอกับผมเนี่ยรู้จักกันมาปีกว่าแล้ว เราก็คุยกันมาสักพัก นิสัยของพวกเราค่อนข้างต่าง
เธอค่อนข้างอินดี้ ส่วนผมค่อนข้างปาร์ตี้กาย
พอดีคนอินดี้ อยากไปนอนเต็นท์ ฉลองวันเกิด แต่ผมห้ามไว้ด้วยเหตุผลที่ว่า...กลัวเธอลำบาก
เพราะเธอเป็นคนที่ดูเหมือนคุณหนู เธอเป็นคนที่ชอบโดนยุงกัด
สุดท้ายหนึ่งวันล่วงหน้าเธอก็บอกผมว่า งั้นไม่ไปแล้วเที่ยวน่ะ อยู่ฉลองที่กรุงเทพละกัน....


แต่เช้าวันต่อมา ผมติดต่อคนอินดี้ไม่ได้ เหมือนปิดเครื่องไว้ ร้อนรนจนทนไม่ไหว...
ไม่นาน sms ก็แจ้งเตือนว่าอินดี้เปิดมือถือ...ผมโทรไปได้ความว่า
"เค้าอยู่บนรถไฟ กำลังจะไปกาญฯ แค่นี้ก่อนนะ จะเซฟแบต"

เท่านั้นแหละครับ คนไม่อินดี้แบบผม ต้องระเห็จเก็บข้าวของ นั่งรถตู้ตามไปในบัดดล....

ไปกาญฯ....ยังไงดี?


ผม เดินทางด้วยรถตู้ กรุงเทพ กาญจนบุรี โดยไปที่สถานีขนส่งหมอชิตสอง
เดินทะลุ ชานชาลาที่ 3 เข้าไปด้านใน จะมีรถตู้ที่ย้ายมาจากอนุสาวรีย์ชัยอยู่เต็มไปหมด
รถตู้ไปกาญมีหลายเจ้า แต่ผมเลือกเจ้าหนึ่งที่ล็อคเบอร์ 65 จากการอ่านรีวิวว่า เส้นนี้ไวสุดแล้ว

ตอนนั้นบ่ายสอง กว่าจะไปถึงตัวเมืองคงสี่โมงเย็นเกือบห้าโมง...ไหนจะต้องไปต่ออีก

ส่วนอินดี้...นั่งรถไฟตั้งแต่เช้า ที่สถานีรถไฟธนบุรี รอบเวลา 07.50 น.
ป่านนี้เช็คอินแล้วที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น... มันอยู่ไหน ไปยังไง?
อันนี้คนไม่อินดี้ไม่รู้เรื่องจริงๆ....

คนอินดี้...ถึงกาญฯประมาณ 10 โมงนิดๆ ออกเดินเตาะแตะไปเช่ารถ...
ทีแรกนึกว่าจะทำตามรีวิวใน pantip คือไปลงแถวๆลาดหญ้า และหารถไปแม่ขมิ้น

เปล่าเลย... อินดี้ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ และบิดไปตามใจฉัน...

ฝั่งผมน่ะเหรอ...ด้วยสภาพรถติด กว่าจะถึงกาญก็ห้าโมงเย็นแล้ว
ยังดีที่เจอพี่รถตู้ใจดี ขับไปส่งต่อแถวโค้งประปา เพราะเส้นนั้นร้านรถเช่าเยอะ
ผมเดินสุ่มๆและเสี่ยงดวงเอา จนไปหยุดที่หน้าร้าน Gib&Guy Simple Food แบบงงๆ


จากนั้นไม่รู้อะไรดลใจ ผมก็ขอเช่ามอเตอร์ไซค์ทันที 1 คันเพื่อจะไปต่อ
วัดระยะทางแล้ว ร้อยกว่ากิโลเมตร...แดดยังเปรี้ยงๆ แต่ดูไกลๆฝนก็ทำท่าจะมา..

ไปกาญ....เช่ามอเตอร์ไซค์ที่ไหนดี???


รีวิวหน้านี้...ขออนุญาตยกข้อความที่เขียนเขียนไว้ในเพจตัวเองมาแปะนะครับ

- ศูนย์รวมรถมอเตอร์ไซค์เช่าที่ตัวเมืองกาญนั้นจะอยู่ถนนโค้งประปา (ตาม Google maps มันคือถนนแม่น้ำแควครับ
ตรงไปเรื่อยๆจะสุดทางที่ทางรถไฟข้ามแม่น้ำแควนั่นเอง) ตรงนี้ร้านรวงเยอะครับ เสี่ยงดวงเอา (ผมก็เช่นกัน)

- ตามที่หลายๆแหล่งรีวิวเลยครับ ส่นใหญ่เขาจะให้ฝรั่งเช่ามากกว่าเพราะไม่ค่อยไว้ใจคนไทยโดยเฉพาะคนในพื้นที่
เพราะอาจจะมีการส่งต่อรถของเขาข้ามฝั่งไปได้ ดังนั้นจึงต้องอาศัยโชคและดวงอีกหน่อย
และ...ราคา คนไทยจะแพงกว่าต่างชาติด้วยเหตุผลสองสามข้อ ได้แก่ จำนวนวันที่เช่า // ความน่าไว้ใจ และอื่นๆ(อันนี้ไม่ได้ถามมา)

- รอบแรกที่ผมไปถึงกาญ(วันที่ 6 พ.ค. ตอนนั้นเวลาประมาณเกือบๆห้าโมงเย็น...ย้ำว่าห้าโมงเย็น - เดินทางโดยรถตู้)
เจอพี่รถตู้ใจดีพามาส่งถึงที่ถนนเส้นนี้ ผมเลยเดินดุ่มๆสุ่มเลือก เลยเข้าไปที่ร้านชือ Gib&Guy Simple food
ซึ่งเปิดเป็นร้านขายอาหาร และมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่า โดยไม่รู้อะไรดลใจ ผมเลยแวะเข้าไปทักและจัดการเช่ามา 1 คันทันที
ในราคา 250 บาท/วัน มีค่ามัดจำรถ(คันละ) 1,000 บาท (ได้คืนตอนเอารถมาคืน) ทิ้งเอกสารไว้แค่บัตรประชาชน หรือใบขับขี่
(ดีหน่อยที่ผมพกใบขับขี่รถยนต์ไป พี่เขาก็รับ เลยไม่ต้องทิ้งบัตรประชาชนและใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ไว้)

- ที่ประทับใจมากคือ...รอบแรก พี่เค้าลดค่าเช่าให้นิดนึง และ(โดยการขอร้องของผมเอง) พี่เขาก็ไปส่งที่ บขส.
และรอบสองก็ขอพี่เขาไปส่งที่สถานีรถไฟด้วย มันเป็นการบริการที่ค่อนข้าง Beyond Expectation ของผมมากๆ
ด้วยค่าเช่า 200-250 บาทต่อคันต่อวันที่ผมรับได้แล้ว ยังมีบริการเสริมอีก แถมพี่เขายังคุยง่าย ต่อรองได้ง่ายอีก
ผมเลยขอแนะนำร้านนี้เลยครับ (เช่าเอง ประทับใจเอง ไม่ใช่หน้าม้านะครับ)


- ที่ประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือวันกลับของรอบสอง วันที่ 30 พ.ค. พวกผมออกมาจากเอราวัณตอนบ่ายๆ แต่ฝนตก...
ทางร้านเช่าโทรมาเลยครับ บอกว่าเมืองกาญฝนตก ไม่ต้องรีบกลับก็ได้ ส่งรถเลตได้...เห้ย!
ผมว่าบริการพี่เค้าดีจริงๆนะ อวยเลย ไปอีกรอบหน้า ผมก็เช่าร้านนี้แหละ

- เบอร์โทรติดต่อของร้าน ขอให้ไล่ดูที่รูปเลยนะครับ มันจะติดไว้ที่หน้ามอเตอร์ไซค์ผมถ่ายมาให้แล้วนะครับ

ไหวไหม...ไปอีกร้อยกว่าโล???

ในใจตอนนั้นเริ่มจะกรีดร้องแล้วครับ เพราะว่าต้องเร่งทำเวลาอย่างหนัก
ของผมนี่ ได้รถก็ห้าหกโมงเย็นแล้ว และต้องขี่ไปอีกร้อยกว่าโล...
ถ้าไม่สนิท ไม่คิดจริงจังนี่จะไม่ตามไปแน่นอน นอนนิ่งๆอยู่บ้านจะดีกว่าไหม?

ตอนผ่านสุสาน วิวสวยจัง แต่ไม่ได้แวะ
รีบ!!!

ฝั่งคนอินดี้... กว่าจะเปิดมือถืออีกรอบ ก็ปาเข้าไปบ่ายแก่ๆแล้วครับ
ตอนนั้นผมอยู่บนรถตู้อยู่เลย ทะเลาะกันจนพี่คนขับเขาเอ็ด
เพราะว่าเขาเกรงใจ ผดส. คนอื่น (ต้องขอโทษจริงๆนะครับพี่)

สาเหตุที่ทะเลาะคือ คนอินดี้บอกว่า ไม่ต้องตามมา ไม่อยากให้มา
ไอ้เราก็อ้าว แบบนี้ก็ได้เหรอ ไม่ทันแล้วมั้ง นั่งมาจะถึงที่แล้วอะ...

แล้วคนอินดี้ก็ปิดมือถืออีก...เงียบหายไปเพราะลงไปเล่นน้ำตก
(รู้มาทีหลังว่าที่น้ำตกไม่ค่อยมีสัญญาณ)
ไอ้เราก็ร้อนรน ทนไม่ไหว รีบบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปหา...

ทายสิครับว่าถึงกี่โมง???

ครับ เกือบสองทุ่ม!!!

แถมก่อนจะถึง ฝนตก เปียกเป็นลูกหมูตกน้ำเลยทีเดียว
เสื้อผ้าที่ตระเตรียมมา เปียกทุกตัว.... กว่าจะถึงก็มืด แบบมืดมากๆแล้ว
ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้ว่าคนอินดี้จะให้เข้าเต็นท์รึเปล่า?

พอไปถึงที่หมาย.... คนอินดี้อยู่ในเต็นท์ เห็นหน้าแล้วร้องทักด้วยความตกใจ
เห้ย!! มาได้ไง

พอเห็นสภาพเป็นลูกหมูตกน้ำ ก็บอกให้รีบเปลี่ยนชุด(ที่เปียกน้อยกว่า)
และบอกว่า หิวไหม ซื้อข้าวกล่องมาสองกล่อง เหลือกล่องนึงแน่ะ

ผมก็ถามว่า อ้าว ไหนบอกไม่ให้มา ทำไมถึงซื้อข้าวมาสองกล่องได้?
อินดี้ก็ตอบว่า เผื่อหิวกลางดึกไง.....

แบบนี้ก็ได้เหรอ???

กางเต็นท์ที่ไหนดี....ที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น???




ลานกางเต็นท์ของห้วยแม่ขมิ้นจะอยู่ที่น้ำตกชั้น 4 ครับ
เข้ามาจากประตูด้านหน้า เสียค่าเข้า 100 บาทต่อคน เลี้ยวซ้ายขับมาตามทางเรื่อยๆ
(ตอนที่ผมไปดีหน่อย ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าซักบาท เพราะว่าเป็นช่วงโลว์ น้ำน้อย)

หากใครไม่มีเต็นท์ ก็มาติดต่อเช่ากับ จนท.อุทยานได้ครับ พี่ๆเค้าใจดีมาก
แต่ถ้าไม่อยากนอนเต็นท์ ให้จองที่เว็บไซค์ของอุทยานมาก่อนได้ มีที่พักเป็นหลังๆให้เลือกจ้า

บริเวณจุดกางเต็นท์ของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น...มีให้เลือกเยอะครับ กว้างขวางหลายทำเล
ทั้งกลางแจ้ง และในศาลา อย่างรูปนี้เป็นเต็นท์ของอินดี้ ที่สอยมาหลังจากจบทริปแรก
กลับมารอบ 2 เลยพากันมากางใต้ต้นไม้แบบนี้แล....

แต่....ด้วยความที่พื้นเป็นดิน(แดง) และฝนตกทั้งคืน
กลายเป็นว่า โคลนแดงๆเปรอะเต็มทั่วกราวชีทไปหมด
ต้องมาล้างๆกันยกใหญ่.... ดังนั้น ขอแนะนำว่า ถ้าจะกาง
ควรกางในศาลา หรือไม่ก็กางที่สนามหญ้าดีกว่าครับ...

นี่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้องหมา น้องแมวเยอะแยะเลย
หนึ่งในตัวโปรดของอินดี้คือตัวนี้ อินดี้ตั้งชื่อว่า ช็อคโก้ไข่ดำ

ที่มาคือ ขนสีช็อคโกแล็ต ส่วนคำว่าไข่ดำนั้น...ขอไม่เอ่ยถึงนะครับ 555

เรื่องเล่าอันแสนโหดร้าย....
ช็อคโก้ ไข่ดำ เป็นแมวที่อุทยาน นางจะเงียบๆเหวี่ยงๆ
วันที่ผมไป มีกระรอกตัวนึง วิ่งผ่าน เจ้าแมวหง่าวที่ดูหงอยๆวิ่งตามไปตะปบ
น้องกระรอกน้อยดิ้นขลุกขลิกในปากเจ้าช็อคโก้ อินดี้กับผมต้องรีบไปช่วย
เพราะกระรอกมีปลอกคอ น่าจะมีเจ้าของ

แต่ ช็อคโก้ไข่ดำไม่ฟังเสียงห้ามเลย
อินดี้พยายามแงะออก พร้อมบอกว่า ปล่อยนะช็อคโก้ เดี๋ยวไม่รักแล้วนะ
ก็ยิ่งไม่เป็นผล...น้องกระรอกหมดลมหายใจคาปากเจ้าช็อคโก้ไข่ดำอยู่ตรงนั้น

สืบทราบ ได้ความว่า กระรอกน้อยเป็นของ จนท.อุทยานนี้เอง เลี้ยงมาแต่เล็ก
วันนี้ดวงคงถึงฆาตจริงๆ เพราะหลุดออกมา เจอช้อคโก้ไข่ดำ ขวัญใจอินดี้พอดี...

เรื่องปากท้อง...ฝากไว้ที่ไหน?
ใครที่มีอุปกรณ์มา ขอบอกว่าไม่อดตายแน่นอนครับ สามารถทำอาหารที่จุดกางเต็นท์ได้
แต่คนที่ไม่ได้พกอะไรมาเลยแบบผมเนี่ย ต้องฝากไว้กับร้านสวัสดิการบนนี้ได้เลย
ราคาไม่แพงครับ มีก๋วยเตี๋ยว กับอาหารตามสั่งทั่วไป

ถ้าวันไหนวันหยุดยาว หรือเสาร์อาทิตย์ ร้านจะเปิดให้บริการเยอะกว่านี้

แต่...สำหรับคนที่มีรถแบบผม
การออกไปหาอะไรกินข้างล่าง เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า...
เพราะจากทางเข้า(ที่จ่ายเงิน) ขับตรงไปอีกนิด จะมีร้านอร่อยอยู่
ชื่อว่าร้าน ปิ่นไพร มีป้าหยุดเป็นแม่ครัวใหญ่อยู่ตรงนั้น...

เมนูอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก ไก่ล้านตัว ของป้าหยุดคือ
ผัดหน่อไม้สด
ไก่รวนเค็ม
และ กะเพรารวมมิตร

ผมไปสองครั้ง สั่งกินไปแล้ว 4-5 มื้อ...
อยากจะซื้อตัวป้ามาผัดหน่อไม้สดให้กินทุกวันเลยจริงๆ

เมนูนี้คือ...ไก่รวนเค็ม อร่อยเหาะเหมือนกัน
(อยากได้เบียร์มาแกล้มจีๆ)

เมนูอื่นๆก็มี ไข่เจียวโหระพา

ส่วนอันนี้คือ แกง....อะไรสักอย่าง เป็นแกงปลา
ซึ่งผมไม่ถนัดเท่าไหร่นัก แต่เป็นของโปรดของอินดี้เขาล่ะ

นอกจากร้านอาหารแล้ว...ป้าหยุดยังมีกิจการบ้านเช่าอีกด้วยนะครับ
ขออนุญาตเอารูปใส่ไว้ที่สปอยนะ เพราะว่าไม่ได้พักที่บ้านแก
เนื่องจากค่อนข้างไกลจากตัวน้ำตกไปนิดนึง (คหสต)


*** ไม่มีรูปบ้านนะครับ พอดีถ่ายมาแล้วไม่สวยเลย (ผมนี่แหละถ่ายไม่สวย ไม่ใช่บ้านไม่สวยนะครับ)

หลังจากที่อินดี้ ดูจะอิ่มหมีพีพันกับอาหารและเครื่องดื่ม
เรื่องที่แอบหนีมากางเต็นท์คนเดียวดูจะเลือนหายไปจากสมองของเธอ
แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่น่ากังวล นั่นคือ...ห้องน้ำ!!!

ตอบได้เลยว่า ห้องน้ำที่นี่ อยู่หลังร้านสวัสดิการ ถามว่าไกลจากจุดกางเต็นท์ไหม
ผมตอบได้ว่าไกลพอสมควร กลางคืนดึกๆมีไฟเปิดตลอด แต่ผู้หญิงก็ควรพาเพื่อนไปด้วยนะครับ

ห้องน้ำที่นี่ มีเยอะครับ 5-6 หลังเลยทีเดียว แยกชายหญิงพร้อม
มีทั้งห้องน้ำ และห้องอาบน้ำบริการเยี่ยมยอด!!!

อ้อ เกือบลืมบอกไปว่า...ที่นี่มีห้องน้ำสร้างใหม่ด้วยนะครับ
จะหลบมุมอยู่หลังห้องน้ำหลังเก่าๆ สะอาดเอี่ยมกว่าทุกห้องที่เข้าไปแน่ๆ
แต่เสียดายที่ตอนกลางคืนไม่มีไฟ(เห็นคนเฝ้าบอกว่า ไฟไม่พอ ฮาาาาาาา)

ฝอยเรื่องตัวเองมาตั้งนาน...ยังไม่ได้แปะข้อมูลของที่นี่เลยแฮะ!!!

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากตัวอ.เมือง กาญฯ ประมาณ 110 กิโลเมตร
ตอนขามา บิดจนปวดข้อมือ นั่งขี่สองล้อจนปวดก้นกบไปหมด ฝนตกใส่จนน้ำตาแทบไหลพรากๆเลยครับ

การเดินทาง สามารถมาได้ทั้ง
- รถมอเตอร์ไซค์
- รถยนต์ส่วนตัว
- รถสองแถว (ขึ้นแถวลาดหญ้า แต่จะมีวันละ 1-2 รอบเท่านั้น ควรศึกษาข้อมูลก่อนนะครับ)
- แพขนานยนต์

น้ำตกที่นี่ จะมีอยู่ 7 ชั้น
ตอนที่ไปคือเดือน พฤษภาคม เป็นช่วงน้ำน้อย มาก
ชั้นที่น้ำเยอะที่สุดคือชั้นที่ 1 เลยครับ เดินไปจนเกือบล่างสุดเลย

การเดินทางไป ที่กางเต็นท์ สบายกาย สบายใจมากครับ
ใครที่เป็นห่วงเรื่องการติดต่อกับโลกภายนอก เตรียมแบตสำรองไปด้วยก็ดีครับ
ที่อช.มีบริการที่ชาร์จแบตตรงศาลา รอบแรกที่ไปยังโอเค...แต่ที่ผมไปรอบที่สอง ไม่มีไฟให้ชาร์จจ้า
ไฟไม่พอ...มั้ง

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น....เดินลงไปง่าย สะดวก เพราะมีการทำบันไดและทางเดินพร้อมสรรพ
เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย(ที่ข้อเข่ายังดีอยู่)นะครับ อย่างที่ทุกท่านอาจจะทราบดีอยู่แล้ว
ว่าจุดที่เรากางเต็นท์นั้นอยู่ชั้น 4 ซึ่งอยู่ตรงกลางพอดี ....

ถ้าอยากจะไปสบายๆ ให้เดินลงไปชั้น 3 ถึง 1
แต่ถ้าอยากลำบากหน่อย ให้ไปผจญภัย ชั้น 5-7 ครับผ๊ม


ทางเดินสำหรับลงไปเล่นน้ำตกชั้น 3 ถึง 1

อินดี้เป็นคนแข็งแกร่ง และสตรอง เพราะเธอสามารถมาพักกางเต็นท์คนเดียวได้
(ผมเป็นตัวแถมในทริปนี้ของเธอ)...
แต่...
ทุกความเข้มแข็งต้องมีจุดอ่อน...
ตอนที่เล่นน้ำ เสร็จ และกำลังเดินกลับ
อินดี้เดินผ่านอะไรบ้างอย่าง แล้วหวีดร้องอย่างหนักจนผมตกใจ...

พอเข้าไปดูใกล้ๆ อ้อ....ไอ้นี่นี่เอง

เล่นน้ำตกชั้นไหน...ฟินสุด???

ตอบเลยว่า ชั้น 1!

แต่ไม่ใช่ตรงข้างล่างสุดเลยนะครับ จะถัดมาอีกหน่อย
ช่วงที่ไปน้ำน้อย แต่น้ำเขียวน่าเล่นมาก ส่วนใหญ่คนที่ไปจะเล่นตรงนี้กันครับ
เพราะมันดูสะดวก แถมมีกิ่งไม้ยื่นออกจากต้นไม้เหมือนที่กระโดดน้ำเลย
พวกเราไม่มีใครกล้ากระโดด เพราะมันสูง... ได้แต่กระโดดจากดานบนน้ำตกเอา ง่ายๆ
ท่าแต่ละท่าเหมือนหมูตกนำ้เอามากๆ....ก้มมองพุงตัวเอง

จุดที่พวกเรากระโดดน้ำลงมาครับ จะเป็นดานบนของชั้นนี้เอง
สามารถกระโดดได้ น้ำไม่ลึกมาก ใครที่ว่ายน้ำไม่เก่งไม่แนะนำนะครับ
น้ำเย็น และวิวสวยมาก ตอนที่กระโดดลงมาฟินสุดจริงๆ

ความซนของอินดี้

นอกจากอินดี้จะมีความสตรองขั้นสุดแล้ว อินดี้ยังเป็นคนที่ซนขั้นสุดอีกเหมือนกัน
ทุกท่านดูรูปนะครับ แล้วจะเห็นว่ามีกิ่งไม้ยื่นออกมาเหมือนที่กระโดดน้ำ
อินดี้ของเรา ปีนขึ้นไป แต่ไม่กระโดดนะครับ เพราะว่ามันสูง อินดี้กลัว
ผมคนนึงแหละที่ไม่เฉียดเข้าใกล้กิ่งไม้อันนั้นเลย เพราะว่าไม่อยากคิดว่าถ้าพลาดท่าจะเป็นยังไง

แต่อินดี้เปล่า อินดี้ไม่ได้คิดว่าจะพลาดท่ายังไง และไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงจนกระทั่งอินดี้หวีดร้องขึ้นมา
ตูม!!!

เสียงอินดี้พลาดตกน้ำ ผมนี่ทั้งตกใจและขำ เพราะไม่คิดว่าอินดี้จะกระโดด
จากท่าที่ลงมานั้น ไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าสวยงามและตั้งใจเลยแม้แต่น้อย....

ดังนั้น ขอเตือนนะครับว่า ถ้าไม่อยากพลาดแบบอินดี้ อย่าริปีนขึ้นไปเด็ดขาด
ไม่งั้นจะลงท่าไม่สวย....เท่าไรนัก 55555

ถ้าอินดี้มาอ่านจะบอกว่าไม่ได้ล้อเลียนนะ แต่ภาพนั้นมันติดตาจริงๆ

รอบแรกที่ไป...ชั้น 4 5 6 7 ไม่มีน้ำเลย (จนท.บอก)
แต่รอบสองไปช่วงปลายเดือน จนท.บอกว่ามีน้ำแล้วนะ แต่ไม่เยอะ
ไปสิ อินดี้ซนขนาดนี้ มีหรือจะพลาด....

เดินไปตามทางเลยครับ ทางจะเป็นแบบนี้

ซึ่งเราก็ โอเค้.....ไม่เหนื่อย
เจอน้ำตกชั้นบนสวยๆคงหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง....

พอมาเจอชั้น 5

ระหว่างทางไปชั้น 6

จนมาเจอชั้น 6

ฮือๆๆๆ ไม่อยากเดินต่อแล้วอะ....

และพอถึงชั้น 7 จริงๆ ... โอเค คุ้มกับที่เดินมาอยู่นะ
แต่ความรู้สึกลึกๆและจริงๆ ชอบชั้น 1 2 3 มากกว่าอีก น้ำเยอะกว่าเยอะด้วย...

ทริปนี้...อิ่มเอมใจไหม?

บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการฝ่ารถติดตอนเย็นจากกทม. มาถึงกาญ
คุ้มค่ากับการบิดมอเตอร์ไซค์นั่งจนเมื่อยตูดชามาร้อยกว่ากิโล
คุ้มค่าที่ยอมฝ่าสายฝนที่ตกกระหน่ำในระยะอีกสิบกว่ากิโลเมตรจะถึงที่หมาย
คุ้มค่าที่เสื้อผ้า กระเป๋ารวมถึงตัวเองเปียกเป็นลูกหมูตกน้ำ
คุ่มค่าที่ลมพัดเม็ดฝนขนาดเบ้งปะทะหน้าจนต้องถอดแว่นตาตอนขับรถ...

เพราะ... น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นสวยมาก เล่นน้ำฟินมาก
บรรยากาศดี เจ้าหน้าที่น่ารัก อาหารร้านป้าหยุดอร่อยหยุดโลก

และที่สำคัญ...อินดี้บอกว่า "ถ้าจะมาเคลียร์อะไร หรือชวนทะเลาะ ไม่ต้องนะ ขออยู่กับบรรยากาศนี้ก่อน"
ผมมองกล่องข้าวที่อินดี้ซื้อมาเผื่อแล้วตอบไปว่า "อื้อ...." และเข้านอนด้วยความเหนื่อยล้าในที่สุด...

แถม....


ผมว่าไม่ใช่แค่อินดี้นะที่ซน ผมเองก็เป็นคนหนึ่งแหละที่อยู่ไม่สุข
หลังจากที่เราทานข้าวที่ร้านป้าหยุดในมื้อหนึ่ง(จากหลายๆมื้อที่เราไปฝากท้องกัน)
พวกเราก็ได้มีการขับรถเลาะไปตามทางเล็กๆที่อยู่ถัดมาจากร้านไม่ไกล

ไม่รู้ไปจะเจออะไร ไปแล้วจะดีไหม แต่ก็แค่อยากไป
เหมือนอินดี้...ที่ก็แค่อยากมา
เหมือนกับผม...ก็แค่อยากตามมา
ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่มีอะไรจะต้องกังวล
Live the moment, enjoy it together.
เท่านี้ ก็พอ....

จบทริป...น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

Last, but not least....


กระทู้นี้
Attn:: Indy

อย่าลืมติดตามทริปต่อไป น้ำตกเอราวัณเร็วๆนี้นะครับ

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง