รีวิว

สงกรานต์ที่รอคอย ณ เชียงใหม่

Thailand
วันออกเดินทาง 10/04/2022
วันเดินทางกลับ 14/04/2022
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน 15,001 - 20,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม สวัสดีค่ะหลังจากห่างหายจากการเขียนรีวิวมานาน วันนี้กลับมาแล้วค่ะ พร้อมกับทริปแอ่วเหนือช่วงสงกรานต์ปี 2565 ค่ะ ทริปนี้จริงๆเราแพลนจะมากันตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ติดช่วงโควิดทำให้เราต้องเลื่อนแพลนมา1ปีเต็มๆเลยค่ะ ทริปนี้ส่วนใหญ่เราแพลนเที่ยวแต่ในเมือง พร้อมแล้วเริ่มเดินทางไปกันได้เลยค่ะ🌈🌈🌈
53K views
วันที่
1

เริ่มเดินทางจากกรุงเทพบินไปถึงเชียงใหม่ไฟท์เราถึงช่วงประมาณเที่ยงค่ะ แพลนแรกที่เราตั้งใจไปคือไปทานข้าวแกงกะหรี่ร้านลับ Papa Curry ร้านข้าวแกงกะหรี่สไตล์ Homemade บรรยากาศดูสบายๆเป็นกันเอง วันที่เราไปตรงกับวันอาทิตย์พอดีเลยต้องรอคิว ใช้เวลารอคิวจนถึงเวลาได้อาหารก็ประมาณชั่วโมงนิดๆค่ะ ข้าวแกงกะหรี่ที่นี่พิเศษตรงมี Topping ให้เลือกหลากหลายดีค่ะ รสชาติก็ถือว่าอร่อยดีค่ะ ถ้าใครสาย Curry ลองแวะมาทานกันได้นะคะ จากสนามบินใช้เวลาไม่กี่นาทีเองค่ะ

หลังจากทานข้าวกันอิ่มอร่อยแล้วเราก็เข้า Check In โรงแรม คืนแรกเราพักที่ Askara Heritage เพราะเราแพลนเดินเล่นที่ถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งจะเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ โรงแรมที่เราพักห้องสวย ขนาดกำลังดี แถมดีตรงที่ด้านหน้าโรงแรมเป็นตลาด สามารถเดินเล่นทั้งคืนเลยค่ะ ทำเลสะดวกดีมากๆค่ะ เราเดินเล่นรอบๆโรงแรม ถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วออกไปหากาแฟทานกันช่วงบ่าย มีร้านกาแฟแบบเดินใกล้มากคือร้าน Stories Cafe & Bistro Chiangmai ร้านอยู่ติดริมถนน หาไม่ยากค่ะ เมนูน่าทานเยอะเลยค่ะ แถมรสชาติดีด้วยนะคะ

ทานกาแฟเสร็จเราก็เดินข้ามถนนแวะไปถ่ายรูปตรงประตูท่าแพกันค่ะ ได้รูปสวยๆมาเพียบเลยค่ะ ถ่ายรูปเสร็จเราก็มานั่งพักตากแอร์ที่ห้องถึงประมาณ 6 โมง กว่าๆ เตรียมตัวลงไปทานข้าวเย็นซึ่งวันนี้เราตั้งใจฝากท้องที่ห้องอาหารของโรงแรม ใครไม่อยากกินไปเดินไป อยากทานชิวๆสบายๆ รสชาติอาหารที่นี่อร่อยดีค่ะ ใครสนใจก็แวะมาทานที่โรงแรมนี้ได้นะคะ

ทานเสร็จเราก็เดินเล่นที่ถนนคนเดินค่ะ ของส่วนใหญ่จะเป็นพวกงานศิลป์ ของ Handmade ของพื้นเมือง รูปภาพ หรือใครอยากได้รูปภาพตัวเองเป็นที่ระลึก ที่นี่ก็มีช่างรับวาดอยู่หลายคนหลายสไตล์เลยนะคะ ช่วงหัวค่ำที่เราเดินเล่นก็ยังมีวัดซึ่งเปิดให้กราบไหว้ช่วงกลางคืนด้วยค่ะ เราก็ไหว้กันไป2วัดค่ะ คือวัดพันอ้น และศาลหลักเมือง เชียงใหม่

บรรยากาศช่วงเย็นก็จะเดินสบายๆไม่ร้อนค่ะ เราเดินกันทั่วแบบขาลากเลยค่ะ เดินไปเดินมาไปเจอร้านหม่าล่า Thapae Grill เราสองคนเลยลองทานกันไปตอนเกือบเที่ยงคืน ฟินกันเลยทีเดียวค่ะ อิ่มแปร่กลับโรงแรมกันค่ะ วันนี้เดินเที่ยวเยอะมากยังไงขอตัวไปพักก่อนนะคะ ฝันดีค่ะ

วันที่
2

วันนี้เราทานอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วมีแพลนไปทำบุญที่วัดหนองโค้ง แม่แตง วัดนี้พี่สาวเป็นคนพาไปกันค่ะ ไปเจอหลวงลุงซึ่งเป็นเจ้าอาวาสใจดีมากๆ และในวัดก็ใหญ่มีที่สักการะหลายมุมให้กราบไหว้เลยค่ะ

ไหว้พระเสร็จเราก็แวะทานข้าวเที่ยวและไปคาเฟ่เครื่องบิน Air Diamond Cafe บรรยากาศก็เหมือนนั่งเครื่องปกติ ส่วนตัวไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นมากมายค่ะ วันนี้จริงๆช่วงบ่ายเราแพลนจะไปทานข้าวซอยร้านดังแต่ด้วยไปถึงเห็นคิวก็เลย ขอพับแพลนไว้ค่อยมาใหม่ เลยกลับไปโรงแรมพักแดดกันก่อนค่ะ

วันที่
3

วันนี้เราสองคนตื่นเช้าเลยขับรถออกมาใส่บาตรกันที่ตลาดค่ะ และแวะเติมพลังที่ร้านหลงฮัว คาเฟย เป็นอาหารสไตล์จีนผสมผสาน เช้านี้เราสั่งไข่กะทะ ข้าวต้มกระดูกหมู ติ่มซำ รสชาติอร่อยเหมาะจะทานช่วงเช้ามากๆค่ะ ต่อด้วยเข้าร้านกาแฟ Roastniyom Coffee ก่อนเดินทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ เราอยู่บนดอยสุเทพกันหลายชั่วโมงอยู่ค่ะ ไหว้พระสวดกันถึงช่วงบ่ายแล้วถึงลงมาทานข้าวเที่ยงกันในเมือง แต่ด้วยที่แดดวันนี้เจิดจ้ามากๆเราเลยขอตัวกลับไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่โรงแรมค่ะ

วันที่
4

เช้านี้เราตื่นมาใส่บาตร แล้วไปเติมพลังด้วยการกินข้าวมันไก่ร้านอร่อย เกียรติโอชา ต่อด้วยขนมตือคาโคช้างม่อย ร้อนๆจากกะทะคือฟิน อร่อยมากๆค่ะ เติมพลังเสร็จมีแรงไปทำบุญกันต่อที่ วัดเจ็ดยอด 🙏 ซึ่งวัดประจำปีเกิดของคนปีมะเส็ง ส่วนตัวเวลาขึ้นเชียงใหม่ก็จะไปวัดเจ็ดยอดอยู่บ่อยครั้งค่ะ ไปทำบุญนั่งสวดมนต์สักพัก ก็นัดกับพี่สาวแล้วหลานๆไปทานมื้อเที่ยงที่ ร้านข้าวโซอิ เป็นร้านข้าวซอยที่กำลัง Intrend อยู่ตอนนี้มากๆค่ะ รอบนี้เราไปถึงก่อน 11 โมงนิดหน่อย เลยรอคิดไม่นานมากประมาณ10-15 นาที ส่วนตัวชอบข้าวซอยเมนูพิเศษเป็น ข้าวซอย Lobster แบบน้ำ รสชาติชิมแล้วคล้ายๆแบบ Original ค่ะ ข้าวซอยที่นี่โดยรวมหน้าตาอาหาร จัดมาเสริฟได้น่าทานดีค่ะ

ร้านนี้ถ้าไปช่วงเทศกาล แนะนำให้เผื่อเวลาหน่อยนะคะ ร้านเปิดตั้งแต่ 11 โมง แต่ไปถึง10.45 น. ลูกค้าก็มานั่งกันเต็มร้านรอบแรกเรียบร้อยแล้วค่ะ ช่วงนี้ร้านกำลังเป็นที่นิยมใครๆก็อยากลองชิมค่ะ

ทานข้าวซอยกันเสร็จหลานคนเล็กรู้สึกเผ็ดๆเราเลยไปต่อร้านขนมหวานกันที่ร้าน “มีใจให้มัชฉะ” ไปกัน 6 คน เลยได้ชิมหลายเมนูของทานร้านเลยค่ะ ใครสายชาเขียวร้านนี้ต้องลองมานะคะ น่าจะชอบกันค่ะ วันนี้เราทานกันอิ่มมาก แถมวันนี้ช่วงบ่ายเราจองที่พักสวยไว้ข้ามปีเลย ได้เวลาประมาณบ่าย3เราก็เลยเข้าไป Check In ค่ะ

ถึงโรงแรมปุ๊บความรู้สึกที่เดินเข้าไปถึงคือ Wow Wow Wow เลยค่ะ โรงแรมจัดได้สวยงามมากๆ ทุกมุมของที่พักดูสวยหรูหราเหมือนอยู่ในวังสไตล์แถบยุโรปเลยค่ะ เฟอร์นิเจอร์หรูหราสวยงามทุกชิ้นเลยค่ะ ที่พักที่นี่ชื่อว่า Villard123 ช่วงบ่ายๆ เรามีเวลาเลยลงมาเดินถ่ายรูปและแช่น้ำนมตามที่โรงแรมได้เตรียมไว้ให้ค่ะ พอแช่น้ำเสร็จประมาณ 5 โมงกว่าๆเราก็ลงมาถ่ายรูปกันอีกรอบพร้อมเตรียมตัวทานอาหารเย็นค่ะ

ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ ประมาณ 5 โมงกว่าๆเราก็ลงมาถ่ายรูป ซึมซับบรรยากาศวิวแม่น้ำ แดดร่ำไร อีกไม่นานพระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้า ช่วงเวลานี้ทำให้เราสองคนได้รูปสวยๆมาเพียบเลยค่ะ ประมาณ 6 โมงเราก็พร้อมไปที่โต๊ะอาหารสำหรับมื้อค่ำของวันนี้✨✨

มื้อเย็นวันนี้เราจะทานสไตล์ Fine Dining ทั้งหมด 12 Courses พร้อมแล้วเริ่มทานกันเลยนะคะ🕊🕊

เราสองคนเดินไปถึงโต๊ะกับว้าวเลยค่ะเพราะทางโรงแรมจัดไว้ได้สวยงามมากๆค่ะ🕊🕊แถมเมนูที่เสริฟแต่ละจานดูละเมียดละไม สวยงาม หน้าตาน่าทานมากๆ ทานอาหารค่ำมื้อนี้พร้อมด้วยเพลง Jazz คลอเบาๆระหว่างทานอาหาร แถมด้วยรสชาติอาหารทุกจานบอกตรงๆเลยว่าอร่อยมากๆค่ะ จานแรกๆที่เสริฟยังอยากจะขอเพิ่มเลยค่ะ แต่ท้ายๆ คืออิ่มมากๆค่ะ 12 คอร์สบอกเลยอร่อย และประทับใจมากๆค่ะ❤️❤️

คืนนี้เราโชคดีมากบังเอิญมีเรา Check In 1 ห้องเท่านั้น เลยเหมือนปิดโรงแรมมาเที่ยวกัน2คนเลยค่ะ ทุกอย่างดูเป็นส่วนตัวมากๆ เงียบ สบายๆมากๆค่ะ ค่ำนี้ดึกแล้วขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ ฝันดีค่ะ

วันที่
5

Good Morningggg🌈🌈 เช้าแล้วตื่นมาก็อาบน้ำแต่งตัวประมาณเกือบ 9 โมงเช้า ก็เดินลงไปทานอาหาร โอ้ว ห้องอาหารเช้า หอมละมุนจากดอกไม้สดทุกแจกัน แถมด้วยบรรยากาศยามเช้าแบบหรูหรามากๆค่ะ ทางโรงแรมเตรียมอาหารไว้เราให้หลากหลายมากค่ะ และที่สำคัญรสชาติที่เชฟจัดทำให้อร่อยว้าวเลยค่ะ ชอบทุกเมนูเลยค่ะ ทานเสร็จก็มีเวลาเลยเดินถ่ายรูปเล่นกันนิดหน่อยรอบๆโรงแรม ที่นี่ประมาณ 11 โมงเราต้อง Check Out แล้วค่ะ

สายๆวันนี้ เรามีแพลนไปเดินตลาด ก็ได้ช้อปซื้อของติดไม้ติดมือนิดหน่อยค่ะ เดินดูประมาณ2ชั่วโมง ก็บ่ายกว่าแล้ว เลยตั้งใจหาร้านอาหารอร่อยๆทานก่อนกลับกรุงเทพ เลยตัดสินใจไปทานอาหารไทย ที่ร้านอาจารย์สายหยุด อยากจะบอกว่าฟินกับกับข้าวและขนมมากๆค่ะ สวยงาม ปราณีต รสชาติดีทุกอย่างเลยค่ะ เราสองคนอิ่มพุงกางตั้งแต่มาถึงเชียงใหม่จนกลับถึงกรุงเทพเลยค่ะ

ทริปสงกรานต์ปีนี้ได้ไปทำบุญ ได้อยู่กับครอบครัว ได้ไปกินตามลิสซึ่งก็เยอะมากๆ ได้ถ่ายรูป ได้เดินตลาด ได้เที่ยวในหลายๆที่ ได้สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แถมพุงกางด้วย เป็นอีกทริปที่แฮปปี้มากๆค่ะ ใครมีแพลนขึ้นเชียงใหม่สนใจร้านไหนลองแวะไปชิมกันได้นะคะ ทริปหน้าเราจะไปไหนฝากติดตามมาอ่านกันด้วยนะคะ

❤️ArMoO Around The World ❤️

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง