รีวิว

เที่ยวพิพิธภัณฑ์รถโบราณ เจษฎาเทคนิคมิวเซียม

Thailand
วันออกเดินทาง 16/07/2016
วันเดินทางกลับ 16/07/2016
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน < 1,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม เที่ยวพิพิธภัณฑ์รถโบราณ เจษฎาเทคนิคมิวเซียม สถานที่ท่องเที่ยวในนครปฐม แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ มีเวลาแค่ 1 วันก็เที่ยวได้
380K views
วันที่
1

มีเวลาว่าง 1 วันจะไปเที่ยวไหนดี? คำถามนี้เกิดขึ้นในใจหลังจากที่มัวทำแต่งาน ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลยมาหลายเดือน แต่ว่างแค่วันเดียวคงไปได้แค่ใกล้ๆ แบบเช้าไปเย็นกลับ ความคิดที่จะไปเที่ยวแถวนครปฐมเลยฝุดขึ้นมาคับเพราะมันใกล้บ้าน ขับรถไปแป๊บเดียวก็ถึง พอคิดได้ตามนั้นก็เลยเปิดเนตเข้า Google เลยคับ หาข้อมูลว่านครปฐมมีที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง หาไปหามาก็มาเจอกับที่นี่คับ พิพิธภัณฑ์รถโบราณ เจษฎาเทคนิคมิวเซียม ดูจากรูปแล้วน่าสนใจทีเดียว มีรถเก่าๆ หาดูยากเยอะมากๆ เลยกดเข้าไปดูข้อมูล ก็เป๊ะเลยคับ ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์รถโบราณนี้อยู่ใกล้บ้านมาก แถววัดงิ้วรายนี่เอง โอ้ย!!! ใกล้ขนาดนี้ทำไมเราถึงไม่เคยไปเนี้ย หลังจากดูแผนที่ หาข้อมูลการเดินทางแล้วก็ไม่รอช้าคับ ออกจากบ้านไปเที่ยวกันเลย

วิธีเดินทางไปพิพิธภัณฑ์รถโบราณโดยรถยนต์ส่วนตัวนะคับ จากกรุงเทพฯ มาทางถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ผ่านทางต่างระดับเพชรเกษมแล้วไปเลี้ยวขวาที่พุทธมณฑลสายแปดแล้วขับตรงไป หรือจะมาทางเส้นศาลายา ผ่านหน้า ม.มหิดล แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปผ่านหน้าตลาดศาลายา จากนั้นวิ่งไปตามทางจนถึงแยกสถานีรถไฟงิ้วราย ให้เลี้ยวขวาข้ามทาง รถไฟไป ก็จะเจอกับพิพิธภัณฑ์รถโบราณ เจษฏาเทคนิคมิวเซียม จะอยู่ทางด้านขวามือ ข้ามทางรถไฟไปแค่ไม่กี่ร้อยเมตร ใครไปไม่ถูกก็ดูเส้นทางจากแผนที่อันนี้ได้ เป็นแผนที่ที่ทางเจษฎาเทคนิคมิวเซียม ทำขึ้น

ข้อมูลเบื่องต้นของพิพิธภัณฑ์รถโบราณ หรือ เจษฎาเทคนิค มิวเซียม

- ที่อยู่ 100 ม.2 ต.งิ้วลาย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 73120
- เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม
- หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- กิจกรรมอากาศยานเพื่อการเรียนรู้ กับ Jesada Airline มีทุกวันอาทิตย์ 9.00-16.00 น.

มีเว็บไซต์ด้วย ใครอยากเข้ามาหาข้อมูลก่อนเดินทางมาเที่ยวก็เข้าไปที่เว็บไซต์ได้นะ www.jesadatechnikmuseum.com และในเว็บไซต์ยังมีการอัพเดทข้อมูลการจัดกิจกรรมของที่พิพิธภัณฑ์นี้อีกด้วย

เจษฎาเทคนิคมิวเซียม (Jesada Technik Museum) ก่อตั้งขึ้นโดย คุณเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ นักธุรกิจชาวไทย ซึ่งเกิดแรงบันดาลใจ จากการเดินทางไปท่องเที่ยวดูงานด้านเครื่องยนต์กลไก ในทวีปยุโรปและอเมริกาได้พบเห็นพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่รวบรวมรถยนต์หายากไว้มากมายและจัดแสดงได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ จึงเริ่มสะสมรถยนต์หายากขึ้นบ้าง เริ่มจากรถ Messerschmitt KR-200 ปี 1958 รถการ์ตูน (Bubble Car) รถคันแรกที่นำเข้ามาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยใช้ระยะเวลาในการสะสมมามากกว่า 20 ปี จนกระทั่งมียานยนต์ที่สะสมไว้กว่า 500 คัน ตั้งแต่ยานยนต์ขนาดใหญ่ เช่น เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ รถถัง รถโดยสาร รถเก๋ง รถการ์ตูน จักรยานยนต์ รถสามล้อและรถจักรยานจากเกือบทุกชาติในโลก

รถจักรยานโบราณที่ตั้งอยู่ทางด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ รูปทางด้านขวาเป็นจักรยานโบราณ Ordinary Penny-Farthing แบบล้อหน้าโตล้อหลังเล็ก นับเป็นการออกแบบจักรยานรุ่นแรกๆ ที่ผลิตขึ้นใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษและยุโรป มีลักษณะล้อเป็นซี่ลวด ยางตัน ตัวรถสร้างจากไม้และส่วนประกอบโลหะ กว้าง : 0.5 เมตร ยาว : 1.50 เมตร สูง : 1.50 เมตร

รถแต่ล่ะคันนั้นมีประวัติที่น่าสนใจมากๆ มีความแปลกทั้งการใช้งานและการออกแบบ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมรวบไว้ทั้งยานยนต์ เครื่องกล ยานพาหนะ หลากหลายชนิด จากทั่วทุกมุมโลก เช่น เยอรมัน สวีเดน ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ซึ่งรถที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ประมาณ 70% ยังสามารถใช้งานได้ อย่างรถที่เราเห็นในรูปนี้ก็วิ่งไปถึงเมืองกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย มาแล้ว

คำว่า Technik ในชื่อของพิพิธภัณฑ์เป็นภาษาเยอรมัน มีที่มาจากการที่รถส่วนใหญ่ของพิพิธภัณฑ์นั้นเป็นรถโซนยุโรปและอเมริกา และรถคันแรกคุณเจษฎาเริ่มสะสมก็เป็นรถสัญชาติเยอรมัน จึงได้ใช้ภาษาเยอรมันมาตั้งชื่อนั่นเอง

รถยนต์ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ บางคันตัวถังรถทำมาจากไฟเบอร์ฯ, กระดาษอัด, ไม้, สแตนเลส ตามวัสดุที่หาได้และเทคโนโลยีสมัยนั้น

เดินมาในพิพิธภัณฑ์ ตรงทางเข้าจะมีโชว์รถของเล่นขนาดเล็ก รถเต่า Citroen Pallas Citroen Pallas DS23

และทางด้านขวาจะมีรถมินิสีสดๆ ของ BMW จอดโชว์อยู่

ส่วนที่เป็นไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์ คือ บรรดารถการ์ตูน หรือ Bubble Car ที่มีหลากหลายและมีจำนวนมาก เป็นรถขนาดเล็ก นั่งได้ 1 - 2 คนเท่านั้น มีขนาดกระทัดรัด สะดวก และคล่องตัว การใช้งานประหยัดเชื้อเพลิง ประตูรถจะเปิดจากด้านหน้าคล้ายกับประตูตู้เย็น

ช่วงที่ไปมีการโชว์ผลงานการเพ้นท์รูปศิลปะบนกระจกรถจากทายาทของศิลปินที่มีชื่อเสียง เห็นว่าสวยดีเลยถ่ายเก็บไว้ จากในรูปที่เราเห็นกันอยู่นี้ เป็นการเพ้นท์รูปในหลวง ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง รถ Bubble car คันนี้เป็นรถยี่ห้อ Heinkel รุ่น Trojan 200 เป็นรถประเทศเยอรมัน ประกอบที่อังกฤษในปี 1960-1966 ทำมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยากได้รถแบบ Bubble car ของ BMW แต่งบน้อย รูปร่างหน้าตาก็สวยไม่แพ้ BMW เลย

ตรงโซนทางเข้านี้ รถแต่ละคันมีสีสันสวยงามมาก เป็นรถทรงการ์ตูนแทบจะทั้งหมด

รถลายพรางแบบทหารก็มีนะ ไม่ได้มีแต่สีพื้นๆ อย่างเดียว

สามล้อหัวกบ หรือ ตุ๊กตุ๊กหัวกบ จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มมีการนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี พ.ศ. 2502 สมัยจอมพลสฤษฎ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี รถตุ๊กตุ๊กหัวกบจากประเทศญี่ปุ่นจะแตกต่างจากตุ๊กตุ๊กไทยตรงที่ของญี่ปุ่นบังคับด้วยพวงมาลัยแบบรถยนต์ แต่ของไทยเป็นเหมือนแฮนด์มอเตอร์ไซค์

สีชมพูหวานแหวของ nash metropolitan รถสีนี้น่าจะถูกใจสาวๆ นะ สีหวานไม่ว่า รูปทรงรถก็น่ารักดี

เท่าที่เดินๆ ดูนะบอกได้เลยว่ารถทุกคันอยู่ในสภาพดีทีเดียว สีและสภาพของรถยังใหม่อยู่เลย การดูแลรักษาเรียกว่าดูแลกันอย่างดี เจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถนำออกไปวิ่งบนถนนได้จริง

ในส่วนกลางของพิพิธภัณฑ์ ก็จะรวมรถเก่าอีกหลายหลายประเภท ทั้งรถเต่า รถมินิคาร์ขนาดเล็ก mini EL ซึ่งหาดูได้ยาก

มาถึงรถที่ถือว่าเป็นพระเอกของพิพิธภัณฑ์รถโบราณ เจษฎาเทคนิ มิวเซียม ใครที่มาเที่ยวชมก็มักจะมาถ่ายรูปกับเจ้ารถคันนี้ นั่งก็คือ DMC Delorean-12 ติดแผ่นป้ายทะเบียน วม 202 กรุงเทพมหานคร ประตูรถเปิด-ปิดแบบปีกนก รถรุ่นนี้เป็นรถสปอร์ต ผลิตในประเทศไอซ์แลนด์ ในปี 1981 เครื่องยนต์ 2900 CC สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 209 กม./ ชั่วโมง รูปร่างหน้าตาถือว่ารูปทรงล้ำสมัยมากในตอนนั้น และได้ใช้ประกอบภาพยนต์เรื่อง Back To The Future เจาะเวลาหาอดีต ภาพยนต์เรื่องดังในอดีตนั่นเอง การออกแบบรถรุ่นนี้ได้ใช้วิศวกรกว่า 10 ประเทศและเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในสมัยนั้น รถรุ่นนี้มีจำหน่ายเพียงไม่กี่คันเนื่องจากสาเหตุว่าเจ้าของรถยี่ห้อนี้ถูกจับในคดียาเสพติดการผลิตจึงได้ยุติไป

ข้างๆ กันก็มีเจ้ารถคันสีเหลืองนี่จอดอยู่ ได้รับความนิยมจากคนที่มาเที่ยวชมไม่แพ้เจ้า DMC เลย

เดินชมมาเรื่อยๆ เราก็จะเจอ BMW Isetta รถรูปทรงไข่ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นรถ Microcar ที่ดีที่สุดในยุคนั้น เป็นรถต้นแบบของบรรดารถการ์ตูน อีกทั้งยังเป็นรถที่ผู้คนหลงใหลและจดจำไปทั่วโลก Isetta มีต้นกำเนิดจากเมืองมิลานประเทศอิตาลี โดยบริษัท Iso Spa ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตตู้เย็นและสกู๊ตเตอร์ ด้วยดีไซด์ที่แหวกแนวของ Isetta ได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการรถยนต์ในขณะนั้น ทำให้ Isetta ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตต่ออีกหลายประเทศ โดยมีบริษัท BMW เป็นผู้ผลิตรายใหญ่

Mini Comtesse รถยนต์ทรงนี้เป็นต้นแบบแนวคิดของ Micro Car ใช้กำลังเครื่องยนต์ขนาดเล็ก โดยสารได้คนเดียวพร้อมสัมภาระอีกเล็กน้อย นับเป็นรถยนต์ที่ผลิตจากโรงงานขนาดเล็กที่สุดในโลก

เดินเข้ามาด้านในของพิพิธภัณฑ์ก็จะเจอเจ้ามัสแตงสีแดงสดคันนี้คอยต้อนรับ อีกฝั่งจะเป็นการโชว์รถคลาสสิค

ฟอร์ด มัสแตง Ford Mustang รถนั่งสมถรรนะสูง ผลิตโดยบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกัน ก็มีโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ มีทั้งสีแดงและสีน้ำเงิน

บรรดารถยุโรปและรถคลาสสิค มีทั้งเมอซิเดส, จากัวร์, เบนลี

มาดูกันต่อที่โซนจัดแสดงมอเตอร์ไซค์มีอยู่หลายร้อยคัน เก่าๆ ทั้งนั้น

เวสป้า (Vespa) รุ่นเก่าๆ ที่นี่ก็มีให้ชมกัน

เราใช้เวลาในการเดินชมรถโบราณของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นานพอสมควร ก่อนกลับก็ขอเดินมาชมโซนที่โชว์รถซีตรองกันอีกสักหน่อย

ด้วยความที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ของที่นี่ เราใช้เวลาเดินชมรถโบราณไปถ่ายรูปไปอยู่หลายชั่วโมงเลยรู้ตัวอีกทีก็เย็นแล้ว เริ่มหิวคับก่อนกลับบ้านเลยกะว่าจะไปหาข้าวกินที่ตลาดท่านาเพราะอยู่ใกล้ๆ กันกับพิพิธภัณฑ์เลย สำหรับใครที่อยากหาที่เที่ยวใกล้ๆ แบบไปเช้าเย็นกลับแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่เลย เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากกรุงเทพมาก เที่ยวเสร็จแล้วจะไปหาอะไรกินที่ตลาดท่านา หรือจะแวะไปเที่ยวต่อที่ องค์พระปฐมเจดีย์ก็ได้นะคับ ยังไงก็ขอจบรีวิวเที่ยวพิพิธภัณฑ์รถโบราณ เจษฎาเทคนิคมิวเซียม ด้วยรูปนี้แล้วกันนะคับ แแล้วพบกันใหม่ทริปหน้าคับ บาย :)

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง