ข่าวและโปรโมชั่น

ยก 77 จังหวัดมาไว้ในงานเดียว งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 37 วันที่ 25 - 29 มกราคม 2560 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำหนดจัดงาน  "เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560" ครั้งที่ 37 (Thailand Tourism Festival: TTF 2017)  ระหว่างวันที่ 25 - 29 มกราคม 2560  ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร 

กลับมาอีกครั้งกับงานที่หลายคนรอคอย "เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560" ครั้งที่ 37 ที่จะได้ เที่ยวกันแบบสุดคุ้ม จุใจ ที่มาใน Theme "ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง" ครั้งนี้จัดใหญ่ และอลังการกว่าทุก ๆ ปี แถมยังยกเมืองไทยทั้ง 77 จังหวัดมาไว้ในงานนี้งานเดียวที่คุณจะเที่ยวทุกภาคทุกจังหวัด ไม่ว่าจะแอ่วเหนือ เที่ยวอีสาน ล่องใต้  และยังรวบรวม
ของดีของทุกซอกทุกมุมของเมืองไทยมาไว้ในงานนี้ พร้อมนำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่แต่ละภูมิภาค ทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านโซนกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในงาน เพื่อสร้างการรับรู้ และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น

โดยภายในงานจะเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาคผ่านโซนกิจกรรมทั้ง 10โซน ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของการจัดงานดังกล่าว คือ กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การันตีเรื่องสินค้าและอาหาร เจ้าเด็ดเจ้าดังมาเพียบ เรียกได้ว่า..ยกเมืองไทยมาไว้ที่สวนลุมฯ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังทุกวัน ที่โซน เวทีใหญ่อีกด้วย
 


โซน 1 ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 “อุทยานไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติฯ”



สวนดอกไม้เฉลิมพระเกียรติฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ตลอดจนเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยพระบาท 5 ภูมิภาคท่องเที่ยว (จากหนังสือ “70 เส้นทาง ตามรอยพระบาท”) ยกตัวอย่างเช่น
 
  • ภาคเหนือ :- “รอยพระบาทในหลวง รัชกาลที่ 9 หนึ่งเดียวในประเทศไทย” (@ ค่ายเม็งรายมหาราช) จากดอยพญาพิภักดิ์ อ.เทิง จ.เชียงราย
  • ภาคกลาง “เยี่ยมบ้านพ่อ&พื้นที่ทรงงาน ในการปิดทองหลังพระ” @วังไกลกังวล & ชั่งหัวมัน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี
  • ภาคอีสาน “สามสายพันธุ์มหัศจรรย์แห่งภูพาน(วัวดำ-หมูดำ-ไก่ดำ)” @พระตำหนักภูพานฯ โครงการพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 จ.สกลนคร
  • ภาคใต้ “โครงการต้นแบบแก้มลิง” @โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช
  • ภาคตะวันออก “วิถีเกษตรพอเพียง” @ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
 

โซนที่ 2 “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง”



สร้างการรับรู้ความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ ใน 5 ภูมิภาค (ยกเมืองไทย 77 จังหวัดมาไว้ภายในงาน)
 

หมู่บ้านภาคเหนือ “เหนือฝัน ล้านแรงบันดาลใจ”


นำเสนอกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ในมุมมองต่าง ๆ และสัมผัสการจำลองบรรยากาศของวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านเอกลักษณ์ท้องถิ่นและร่วมสมัย รวมทั้งพระราชดำริของราชสกุลมหิดลที่ถูกถ่ายทอดผ่านการทรงงานช่วยเหลือชนเผ่าต่าง ๆ จนทำให้เกิดการพัฒนาทั้งความเป็นอยู่ และผลิตภัณฑ์ จนถึงแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ผู้เข้าชมงานเกิดแรงบันดาลใจให้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังภาคเหนือ Landmark สวนดอกไม้ดอยตุง และสวนโคมไฟโคมผัด
 
  • ซุ้มประตูโคมล้านนา ซุ้มประตูร่มล้านนา ซุ้มประตูดอกไม้ล้านนา
  • ร้านสาธิตวิถีชีวิตความเป็นอยู่และบ้าน ชนเผ่า (10 เผ่า) ประกอบด้วย

1.กะเหรี่ยง(พระบาทห้วยต้ม)
2.กะเหรี่ยง(ตาก)
3.เย้า
4.ลีซอ
5.ม้ง
6.ไทใหญ่
7.ไทพวน
8.อาข่า
9.ไทลื้อ
10.ลาวครั่ง
 
  • ลานอวด(ของ)ดี สาธิตของดีภาคเหนือ และสินค้า OTOP (24 บูท) กาดโนโฟม (ร้านอาหารประกอบแคร่และร่ม 60 ซุ้ม)
  • Photo Backdrop : ถ่ายภาพสามมิติ ท้าเที่ยวข้ามภาค กับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ บนเรือนยอดไม้ (DoiTung Tree Top Walk) ซุ้มดอกไม้จุดประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยว ชุมชนคนเที่ยวเหนือ 17 จังหวัดภาคเหนือ
 

หมู่บ้านภาคกลาง “สุขกลางใจใกล้แค่เอื้อม”



ภาคกลาง Landmark เรือนไทยเจ้าพระยาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประกอบด้วย ห้องพระ ห้องนอน ห้องครัว นั่งเล่น ฯลฯ พร้อมเวทีลานบ้านลานการแสดงของหมู่บ้านภาคกลาง และสาธิตวิถีชีวิตบนบ้านเรือนไทย ใน 5 วันกิจกรรมไม่ซ้ำกัน (ยกตัวอย่างเช่น 25 มกราคม 2560 พิธีขึ้นบ้านใหม่ , 26 มกราคม 2560 พิธีโกนจุก , 27 มกราคม 2560 งานบวชนาค , 28 มกราคม 2560 งานแต่งงาน , 29 มกราคม 2560 เตรียมพิธีจองเปรียง(ลอยกระทงภาคกลาง) วิถีชีวิตการละเล่นพื้นบ้านของเด็ก หมอนวด หมอดู หมอยา ฯลฯ โดยมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงร่วมสมัยหมู่บ้านภาคกลาง วิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง ลพบุรี สุพรรณบุรี กรุงเทพ และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เช่น ลิกเก ลำตัด เพลงพื้นบ้าน อีแซวเกี่ยวข้าว วงดนตรีสุนทราภรณ์ วงดนตรีลูกทุ่งร่วมสมัย รำวงย้อนยุค ศิลปป้องกันตัว แม่ไม้มวยไทย ฯลฯ อีกด้วย
 
  • สาธิตงานศิลปะ “ช่างสิบหมู่” ประกอบด้วย

1.หมู่ช่างเขียน
2.หมู่ช่างแกะ
3.หมู่ช่างสลัก
4.หมู่ช่างปั้น
5.หมู่ช่างปูน
6.หมู่ช่างรัก
7.หมู่ช่างหุ่น
8.หมู่ช่างบุ
9.หมู่ช่างกลึง
10.หมู่ช่างหล่อ

 
  • 15 ตลาดบก 16 ตลาดน้ำ ร้อยร้านอาหารอร่อย OTOP ดังของภาคกลาง
  • Photo Backdrop : ถ่ายภาพสามมิติ “ท้าเที่ยวข้าภาค” เสมือนได้ไปเซลฟี่กันในแหล่งท่องเที่ยวจริงๆ เช่น ท้าปีนเขาช้างเผือก @กาญจนบุรี , ท้าเที่ยวทะเลหมอก 365 วัน พะเนินทุ่ง @ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี , ท้าเที่ยวทุ่งดอกไม้ทานตะวัน @ ลพบุรี
  • ท้าเซลฟี่อุโมงค์ดอกไม้ ชมพูพันธุ์ทิพย์ @ กำแพงแสน จ.นครปฐม , ท้าไปเล่นน้ำทะเลไฮโซหัวหิน @ประจวบคีรีขันธ์ , ท้าเที่ยวทำความดีทำความสะอาดลานวัด @พระนครศรีอยุธยา , ท้านั่งตุ๊กๆเที่ยวกรุง @กรุงเทพ , ท้าเอาปลาแดกมาแลกปลาทู @สมุทรสงคราม เป็นต้น
  • เรือนไทยจุดประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคกลาง
 

หมู่บ้านภาคอีสาน “อีสานแซ่บนัว”



ภาคอีสาน Landmark เฮือนอีสาน , พระธาตุพนม@จ.นครพนม , ต้นกระธูป@จ.ชัยภูมิ ซุ้มประตูทางเข้าตกแต่งด้วยไม้ไผ่และผ้าขาวม้า Directory Board เป็นรถอีแต๋น พร้อมลานบ้านลานเวทีการแสดง โดยการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงร่วมสมัยหมู่บ้านภาคอีสาน ลานเฮ็ดมือ : รวมงานสาธิตวิถีชีวิตชาวอีสานมาไว้ที่นี่
 
  • ตามรอยธรรมพระราชาในดินดินแดนอีสาน : นิทรรศการของมูลนิธิหอจดหมานเหตุ
  • ลานขายข้าวช่วยเหลือชาวนาไทย
  • ซุ้มสาธิต (18 ซุ้ม)
  • ซุ้ม OTOP (25 ซุ้ม)
  • ซุ้มอาหาร ( 21 จุด)
  • หม่องเบิ่งหนัง (ชมหนังประชาสัมพันธ์ภาคอีสาน)
  • เฮือนอีสาน จุดประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยว 19 จังหวัดภาคอีสาน
 

หมู่บ้านภาคใต้ “ปักษ์ใต้ ปักหมุด หยุดเวลา”



ภาคใต้ Landmark ท่าเรือท่องเที่ยวและเรือยอร์ช (เวทีการแสดง) , กุ้งมังกร , พระบรมธาตุเจดีย์ @ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช , ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี , ลานปูดำ @ จ.กระบี่ โดยโซนภาคใต้มีร้านจำหน่ายสินค้า OTOP ตกแต่งรูปแบบร้านค้าตามท่าเรือ, บูทสาธิต ตกแต่งเป็นศาลาท่าเรือ, ตลาดใต้โหนด (เป็นการจำลองตลาดท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพัทลุง), มุมบุฟเฟ่ต์ซีฟุ้ดอาหารทะเล “ปักใต้ ปักหมุด หยุดเวลา” พร้อมจัดพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร และเรือนปั้นหยาจุดประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้

 

หมู่บ้านภาคตะวันออก “สีสันตะวันออก”



ภาคตะวันออก Landmark สะพานอัษฎางค์@เกาะสีชัง พร้อมเวที จำลองบรรยากาศชายทะเล ประกอบด้วยสีสันแหล่งท่องเที่ยวของภาคตะวันออก เช่น นกนางนวล ชายทะเล ประภาคาร โดยโซนภาคตะวันออกจะ แบ่ง”สีสันตะวันออก” เป็น 5 ส่วน (ตามรายสำนักงานภาคตะวันออก 9 จังหวัด) รวบรวมซุ้มสาธิต OTOP และร้านอาหาร แบ่งเป็นกลุ่มๆ 5 โซน อันประกอบด้วย
 
  • ส่วนที่ 1 ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ จำลองภาพสะพานภูมิพล@ จ.สมุทรปราการ แผนที่ท่องเที่ยว สินค้าขึ้นชื่อมะม่วงน้ำดอกไม้ และหลักกิโลเมตรเป็นชื่อจังหวัด ร้านค้าสไตล์อาคารไม้(จำนวน 16 ซุ้ม)
     
  • ส่วนที่ 2 ชลบุรี(พัทยา) จำลองภาพอ่าวพัทยา@ จ.ชลบุรึ แผนที่ท่องเที่ยว สินค้าขึ้นชื่อข้าวหลามหนองมน และหลักกิโลเมตรชื่อจังหวัด ร้านค้าสไตล์เต๊นท์ชายทะเล (จำนวน 16 ซุ้ม)
     
  • ส่วนที่ 3 ระยอง จันทบุรี จำลองภาพอัญมณี@จ.จันทบุรี แผนที่ท่องเที่ยว สินค้าขึ้นช่ือพลอยแดง และหลักกี่โลเมตรชื่อจังหวัด ร้านค้าสไตล์ตึกเก่า (จำนวน 16 ซุ้ม)
     
  • ส่วนที่ 4 ตราด จำลองภาพเกาะช้าง @ จ.ตราด แผนที่ท่องเที่ยว เรือมาด และหลักกิโลเมตรชื่อจังหวัด ร้านค้าเต็นท์ใหญ่ (จำนวน 12ซุ้ม)
     
  • ส่วนที่ 5 นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จำลองภาพเขื่อนขุนด่านปราการชล @ จ.นครนายก แผนที่ท่องเที่ยว เต็นท์เดินป่า และหลักกิโลเมตรรายจังหวัด ร้านค้าไม้ไผ่ทาสี (จำนวน 16 ชุด)
     
  • จุดประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยว 9 จังหวัดภาคตะวันออก
 

โซนที่ 3 “ของดี 50 เขต กทม. & อาหารถิ่น 5 ภูมิภาค ของ ททท.”



โดยโซน 3 Landmark เวทีการแสดง&สาธิต (บริหารด้วยจัดการโดย มติชน อะคาเดอร์มี่)
 
  • ซุ้มของดีจากชุมชน 50 เขต กทม.
  • สลับกับ ซุ้มอาหารถิ่นของ ททท. (ภูมิภาคละ 5 ร้าน) ภาคกลาง, ภาคอีสาน, ภาคเหนือ, ภาคตะวันออก และภาคใต้ :
  • ซุ้มน้ำน้องสุขใจ และซุ้มประชาสัมพันธ์ + ซุ้มประตูทางเข้า
 

โซนที่ 4 Landmark โดมน้องสุขใจ



“นิทรรศการครบเครื่องเรื่องท่องเที่ยวไปกับ ททท.” ซุ้มประตูทางเข้าโซน + Directory Board โซนที่ 4 Landmark โดมน้องสุขใจ จะประกอบไปด้วย
 
  • ประวัติ ททท.
  • จุดถ่ายภาพรูปสะพานภูมิพล
  • Thailand Tourism Awards (TTA)
  • เส้นทางการท่องเที่ยว 3 ฤดู
  • นาข้าวและจุดสาธิต
  • IT ททท.
  • TAT SHOP
  • ประชารัฐสุขใจ Shop
  • โครงการหลวง
  • Food Truck 10 คัน
  • OTOP / DIY
  • ซุ้มดูดวง
  • เวทีการแสดง
  • Welcome Drinks Booth ที่นั่งกินอาหารและพักผ่อน
 

โซนที่ 5 “ท้าเที่ยวข้ามภาค…แนะนำโปรแกรมแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย ตลอดปี 2560”



โซนที่ 5 “ท้าเที่ยวข้ามภาค…แนะนำโปรแกรมแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย ตลอดปี 2560” จะมี โดมเต็นท์ติดแอร์ทั้งหลัง แบ่งเป็น 5 ส่วนคือ
 
  • ส่วนที่ 1 ท้าเที่ยวข้ามภาค และเส้นทางตามรอยพระบาท
  • ส่วนที่ 2 12เมืองต้องห้ามพลาด พลัส
  • ส่วนที่ 3 วันธรรมดาน่าเที่ยว
  • ส่วนที่ 4 ผู้หญิง & ผู้สูงวัย
  • ส่วนที่ 5 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว พันธมิตรเครือข่าย เช่น แอร์เอเชีย การรถไฟแห่งประเทศไทย
  • เวทีทำกิจกรรมแนะนำโปรแกรมท่องเที่ยวในโดมเต็นท์ เช่น ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ เปิดตัวโปรแกรมท้าเที่ยวข้ามภาค
 

โซนที่ 6 “Outdoor Fest เที่ยวเทรนด์ไปกับ อสท. ท่องเที่ยวในเขตทหาร”



โซนที่ 6 ประกอบไปด้วย
 
  • ชุ้มประชาสัมพันธ์ & Directory Board
  • ท่องเที่ยวเขตทหาร (โดย สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว กองทัพบก)
  • ปีนหน้าผา (โดยสมาคมปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย)
  • กางเต็นท์ แค้มปิ้ง กิจกรรม Outdoor
  • อสท.
  • 1672 เบอร์เที่ยวทั่วไทย
  • กิจกรรมบอลลูน
  • Food Truck
  • Vespa
  • Pro Bike
  • Nikon
  • สำหรับบรรยากาศโซนนี้ถือว่าชิลสุดกับดนตรีอะคูสติก ที่จะสลับสับเปลี่ยนกันมาเล่นตลอดทั้งงาน
 

โซนที่ 7



เป็นโซนทำพิธีเปิดงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 การแสดงศิลปวัฒนธรรมและร่วมสมัย เวทีใหญ่”
 

วันที่ 25 มกราคม 2560

 
  • เวลา 16.00 น. ขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรม
  • เวลา 18.25-19.30 น. พิธีเปิดงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 พร้อมชุดการแสดงพิเศษ “ประเทศไทยสู่ความเรืองรอง” ถ่ายทอดสดโทรทัศน์ ททบ.5? ช่วงเวลา 18.20-19.00 น.
 

วันพุธที่ 25 มกราคม 2560

 
  • เวลา 16.00-17.00 น. ขบวนแห่ประเพณีไทย
  • เวลา 18.00-19.30 น. พิธีเปิดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 (ครั้งที่ 37)
  • เวลา 19.30-20.00 น. การแสดงวงประสานเสียงสวนพลู
  • เวลา 20.00-22.00 น. การแสดงคอนเสริต์ The Palace & Friend (ต้น แมคอินทอช จิ และปุ๊ อัญชลี)
 

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560

 
  • เวลา 15.00-16.00 น. การแสดงดนตรีพื้นบ้านภาคใต้ (สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์)
  • เวลา 16.00-17.00 น. การแสดงดนตรีไทยประยุกต์ วงกอไผ่
  • เวลา 17.00-18.00 น. การแสดงพื้นเมือง (สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์)
  • เวลา 18.00-19.00 น. การแสดงโขน ตอน ยกรบ (วิทยาลัยนาฏศิลป กรุงเทพฯ)
  • เวลา 19.00-20.00 น. การแสดงคอนเสิร์ต Vietrio กับวงจีบ
  • เวลา 20.00-21.00 น. การแสดงคอนเสิร์ตลูกทุ่ง แซ่ม แช่มรัมย์ & เปาวลี
  • เวลา 21.00-22.00 น. การแสดงคอนเสิร์ต Bangkok Paradise / Molam International Band
 

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560

 
  • เวลา 15.00-16.00 น. การแสดงพื้นบ้าน การละเล่นเพลงเรือ (สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์)
  • เวลา 16.00-17.00 น. การแสดงดนตรีพื้นเมือง คณะเทพศรัทธาภาคใต้
  • เวลา 17.00-18.00 น. พิธีกล่าวสารอวยพร “เทศกาลตรุษจีน”
  • เวลา 18.00-18.30 น. การแสดงนาฏมวยไทย
  • เวลา 18.30-20.00 น. การแสดงลิเก และวงดนตรี ทวีป ชัยณรงค์ วงเทวัญ (กุ้ง สุธิราช)
  • เวลา 20.00-21.00 น. การแสดงคอนเสิร์ต Infinity Band&Diva ตู่นันทิดา / มาลีวัลย์ / แนน
  • เวลา 21.00-22.00 น. การแสดงคอนเสริต์ปาล์มมี่
 

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2560

 
  • เวลา 15.00-16.00 น. การแสดงนาฏศิลป์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน
  • เวลา 16.00-17.00 น. การแสดงดนตรีแชมป์ชิงช้าสวรรค์ โรงเรียนบัวใหญ่
  • เวลา 17.00-18.00 น. การแสดงดนตรี Ku wind Symphony Orchestra
  • เวลา 18.00-19.00 น. การแสดงอัลคาซ่าร์จากภาคตะวันออก
  • เวลา 19.00-20.00 น. การแสดงนาฏศิลป์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน
  • เวลา 20.00-21.00 น. การแสดงคอนเสิร์ต Koh Mr Saxman / The Sound of Siam / เจนนิเฟอร์ คิ้ม / ปุ้ย
  • เวลา 21.00-22.00 น. การแสดงคอนเสิร์ต Joey Boy & เก่ง The Voice
 

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2560

 
  • เวลา 15.00-16.00 น. การแสดงดนตรีพื้นบ้านวงกันตรึมประเดียลชมัร จ.สุรินทร์
  • เวลา 16.00-17.00 น. การแสดงดนตรี SL MUSIC Thailand ‘ s Got Talent
  • เวลา 17.00-18.00 น. การแสดงละครชาตรีจงกลโปร่งน้ำใจ
  • เวลา 18.00-19.00 น. การแสดงนาฏศิลป์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน
  • เวลา 19.00-20.00 น. การแสดงคอนเสิร์ต ป๊อบ ปองกูล
  • เวลา 20.00-21.00 น. การแสดงคอนเสิร์ตนิว-จิ๋ว
  • เวลา 21.00-22.00 น. การแสดงคอนเสริต์ Burin & The Old School All Star
 

โซนที่ 8 “เทศกาลตรุษจีนวิถีไทย เก๋ไก๋ปีระกา”



โซนที่ 8 สัมผัสบรรยากาศตรุษจีน จากทั่วไทย สืบสานความสัมพันธ์ไทย-จีน โดยเปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะ เทพเจ้า นาจา เพื่อเป็นสิริมงคลและทำพิธีแก้ชง ตรวจดวงชะตา ปีไก่ กับชินแสชื่อดัง รับของที่ระลึกแก้ชง แถมยังได้ร่วมลุ้นรับโชคดีปีไก่ ของรางวัลมากมาย จากไข่ทองคำอีกด้วย

นอกจากนี้ยังได้สัมผัสบรรยากาศ ตรุษจีนย้อนยุค ตระการตาไปกับการแสดงศิลปะวัฒนธรรมจีน จากคณะนักแสดงจากหลายมณฑล เกือบ 200 ชีวิต จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพลิดเพลินกับอาหารจีนต้นตำหรับจากสุดยอดเชฟจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และยังได้ความสนุกสนานกับการถ่ายรูป Landmark ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน จากแหล่งท่องเที่ยวไชน่าทาวน์ทั่วประเทศไทย ทั้งชม ชิม ช้อป เครื่องรางของขลังเสริมสิริมงคล อาหารแสนอร่อย ของที่ระลึกมากมายติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอีกด้วย

 

โซนที่ 9 “แหล่งท่องเที่ยว(ไดโนเสาร์)อุทยานทางธรณีวิทยา”



โซนนี้เอาใจเด็ก ๆ ที่ได้ยกไดโนเสาร์ทั่วไทย มาไว้ที่สวนลุมพินี พร้อมสนุกสนานเรียนรู้กับแหล่งท่องเที่ยวใหม่กับอุทยานธรณีวิทยา

 

โซนที่ 10 “เซลฟี่กับลานน้องสุขใจ 77 จังหวัด”


โซนสุดท้าย โซนที่ 10 จะพบกับน้องสุขใจ มีตัวกลมป้อม แขนขาเล็กกะทัดรัด ดวงตาสีน้ำทะเลสดใส แสดงอารมณ์และความรู้สึกผ่านทางลูกยางใบพัด ใบหน้ามีรอยยิ้มเช่นเดียวกับคนไทยที่มี “ยิ้มสยาม” พร้อมมอบไมตรีต่อผู้มาเยือน แต่งานนี้ภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ได้รวบรวมน้องสุขใจ 77 ตัว 77 เวอร์ชั่น เป็นตัวแทน 77 จังหวัด ชวนท่านไปเซลฟี่กับน้องสุขใจให้ทั่วภายในโซนที่ 10 (น้องสุขใจ คือ สัญลักษณ์นำโชคหรือ Mascot ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2548 พร้อมกับธงไชย แมคอินไตย์ ใน campaign เพื่อรณรงค์การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ คือ “เที่ยวที่ไหน ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา” ออกแบบโดยนำความสวยงามของธรรมชาติในเมืองไทยมารวมกัน มีรอยยิ้มเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคน)


ข้อแนะนำในการเดินทางไปในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 ครั้งที่ 37 สะดวกสบายที่สุดแนะนำการเดินทางโดยรถสาธารณะ 
  • รถเมล์ รถแท็กซี่ รถไฟลอยฟ้า BTS (ลงสถานีศาลาแดง) รถไฟใต้ดิน (ลงสถานีสีลม)
  • ภายในงานรถรางบริการรับ-ส่งฟรี ภายในสวนลุมพินี จำนวน 2 สาย คือ สายสีชมพู และสายสีเขียว


งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 ครั้งที่ 37 ยังได้รวมสนุกลุ้นรางวัลของที่ระลึกจาก ททท. เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวหลังจากจบงานแล้วสำหรับผู้ที่เดินทางมาเที่ยวงานระหว่างวันที่ 25-29 มกราคม 2560 เมื่อซื้อสินค้าภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครบ 10,000 บาท (เฉพาะร้านที่ร่วมรายการ) จะได้รับคูปองชิงรางวัล เขียนชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ นำไปหย่อนในกล่องรับชิ้นส่วน ที่หน้ากองอำนวยการ เพื่อจับรางวัลผู้ที่โชคดี ทุกวันเวลา 21.00 น. ณ บริเวณเวทีใหญ่ สวนลุมพินี กรงเทพฯ รางวัลจำนวน 50 รางวัล มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
 
  • รางวัลของที่ระลึกแพ็กเกจท่องเที่ยวสุดหรู (ตั๋วเครื่องบิน 2 ที่นั่งไป-กลับ โรงแรม 6 ดาว 2 คืน) 5 รางวัล
  • รางวัลของที่ระลึกบัตรโดยสารไป-กลับภายในประเทศ(การบินไทย) รางวัลละ 2 ที่นั่ง 10 รางวัล
  • รางวัลของที่ระลึกที่พักโรงแรม 4-5 ดาว (ชะอำ – หัวหิน – เชียงใหม่ – เกาะกูด) รางวัลละ 2 คืน 35 รางวัล
  • นอกจากนี้ภายในงานยังมีร่วมสนุกลุ้นของที่ระลึกรางวัล จาก ททท.


กิจกรรม “ขยะให้โชค” ที่ประตูทางออก 3 มีจุดทิ้งแยกขยะ (ขยะเศษอาหารทั่วไป – กระป๋อง – ขวดพลาสติก) เป็นกิจกรรมจิตอาสา CSR เพื่อสร้างวัฒนธรรมรับผิดชอบต่อสังคม และรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้นทาง เพื่อสร้างระบบการจัดการขยะภายในงาน วิธีการ

1. คุณนำขยะมาคัดแยกที่จุดจัดกิจกรรม (เศษอาหารขยะทั่วไป – ขวดแก้ว&กระป๋อง – ขวดพลาสติก)
2. มีกติกาในการลุ้นรับของที่ระลึก/รางวัล ดังนี้
 
  • ผู้นำขยะมาคัดแยก 1-2 ชิ้น จะมีสิทธิ์ลุ้นรับของที่ระลึก/รางวัล 1 ครั้ง
  • ผู้นำขยะมาแยก 3 ชิ้นขึ้นไป จะมีสิทธิ์ลุ้นรับของที่ระลึก/รางวัล 2 ครั้ง

3. ของที่ระลึก/รางวัล ในการลุ้นรับแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
  • ส่วนแรก ของรางวัลทั่วๆไป
  • ส่วนที่สอง รางวัลพิเศษ หรือ รางวัลใหญ่ทุกวันที่เวทีประจำหมู่บ้าน แจ้งผลผ่านแฟนเพจการจัดงาน

4. กติการางวัลพิเศษ จะได้มีสิทธิ์ลุ้นของรางวัลจากแต่ละภูมิภาค ในช่วง 2-4 ทุ่มของแต่ละวัน โดยเขียนชื่อนามสกุลลงในคูปองที่แจกให้ (แจ้งผลผ่านแฟนเพจการจัดงานและส่งตรงถึงบ้านตามที่อยู่ที่ให้ไว้)



ติดตามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร 1672 หรือโทร. 0-2250-5500 ต่อ 1333-36 หรือ www.เที่ยวภาคกลาง.com/
หรือ  Facebook : TAT_Tiewpakklang





 

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)