รีวิว

กินแหลก ณ " K O R E A "

South Korea
วันออกเดินทาง 09/09/2015
วันเดินทางกลับ 15/09/2015
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน 15,001 - 20,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม อันยองๆๆ..อันยองๆๆ

ไปเกาหลีๆๆ ห๊ะๆๆ เกาหลีหรอ? ไปเกาหลีเนี่ยนะ??? ก็จะไปอ่ะ ทำไม ก็คนไม่เคยไป อยากไปสูดออกซิเจนในประเทศของซงจุงกิโอปป้า อยากกินอาหารเกาหลีพร้อมส่องโอปป้าๆๆๆๆๆ ให้ฟินยิ่งกว่าคือการช็อปปิ้งๆๆๆเครื่องสำอางงงงงๆๆๆๆให้ตาเหลือกไปข้างเลยยย

ส่วนในรีวิวนี้จะรีวิวเฉพาะๆอาหารเน้นๆๆๆๆๆ จะน่าอร่อยและถูกปากหรือป่าวตามไปอ่านกันเลยจ้าๆๆ

ต้องขอโทษไว้ก่อนน๊าๆ เราจำร้านที่ไปกินไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหนบ้างชื่ออะไรบ้าง คือตอนไปเที่ยวก็เดินไปเรื่อยเหนื่อยตรงไหนก็พักหิวตรงไหนก็เข้าร้านและก็อ่านชื่อร้านไม่ออกๆๆด้วยยยฮี่ๆๆ

สำหรับรสชาติอาหารขึ้นอยู่กับลิ้นเนอะๆๆตัวเองง บางอย่างอาจจะไม่ถูกลิ้นเราแต่ถูกลิ้นคนอื่นก็เป็นได้เนอะๆๆๆ :)

ลุยๆๆๆกินๆกันโล้ดดดดดดดดดดดดๆๆ
75K views
วันที่
1

เครื่องบินลงจอดที่สนามบินอินชอนผ่าน ตม. มาเรียบร้อย... เราก็พุ่งตัวไปที่ร้านสะดวกซื้อ(เซเว่น)ในสนามบิกก่อนเลย เนื่องจากหิววมากๆๆอยากกินอาหารเกาหลีที่ทำจากคนเกาหลีและที่ขายที่เกาหลี --!

เดินเข้าไปในเซเว่นมีอาหารให้เลือกมากมายยก่ายกองงอ่านก็ไม่ออกก็หยิบๆๆที่อยากกินแล้วจ่ายเงินเลย

ร้านสะดวกซื้อในเกาหลีจะมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งกินในร้านค้าค่ะ พอจ่ายเงินเสร็จเดินมาหาโต๊ะนั่งตามใจชอบบได้เลยยยยจ้า

อย่ารอช้าไปตามดูเมนูอาหารมื้อแรกใน K O R E A กันนดีกว่าๆๆๆๆฮิ้วๆๆ

อาหารที่เลือกมาจะมีคิมบับ(ข้าวปั้นห่อสาหร่าย)กับข้าวชุดไก่ย่างแถมสปาเก็ตตี้(ตั้งชื่อเอง)

คิมบับ : รสชาติไม่ได้แย่มากพอกินได้แต่ไม่ถึงกับอร่อยจิ้มกับมายองเนสกำลังดีแต่ถ้าเป็นซอสเค็มๆน่าจะโอเคกว่าๆนะ

ข้าวชุดไก่ย่างแถมสปาเก็ตตี้ : กินแล้วไม่รู้สึก OMG เลยเฉยๆๆๆไก่ย่างจืดไป แต่ถูกใจที่สปาเก็ตตี้ช่องเล็กๆซะงั้น

เราว่าอาหารในร้านสะดวกซื้อค่อนข้างจืด อาจจะไม่ถูกปากคนที่กินรสจัดเท่าไหร่

หลังจากออกสนามบินและเข้ามาในกรุงโซลได้เราก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ Hostel แล้วขึ้นไป N Seoul Tower เพื่อไปล็อกกุญแจ
แต่ก่อนที่จะล็อกกุญแจเดินผ่านตู้ไอศรีม ตาลุกวาววขึ้นมาทันทีและก็หยิบได้มา 1 โคนจ้า

Cheeseberry Buon Gelato Ice Cream : มันดีม๊ากๆอ่ะ ไม่หวานมากชีทเค้กหอมโคนกรอบ ฟินไปอี๊ก! ยกให้เป็นเมนูแนะนำอย่างแรง

หาซื้อง่ายมากเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเจอตู้ไอศครีมส่องๆแล้วหยิบไปจ่ายเงินโล้ดดดดดด

หลังจากลงดอย N Seoul Tower มาแล้วเราก็ไปต่อกันที่เมียงดงๆ ดงช็อปปิ้งสุดฮิตแอนชิค ซึ่ง 2 ข้างทางเต็มไปด้วย street food ที่น่ากินทั้งนั้นเลยย และแล้วกลิ่นไก่ทอดลอยเข้าจมูกก็ต้องหยุดทันที!!

ไก่ทอดราดซอสกับต๊อกโบกี : ไก่กรอบมากซอสหวานอร่อยเผ็ดนิดๆกำลังดี กินเหอะ! ขอร้องอย่าพลาดเลย แต่ต๊อกโบกีไม่ชอบเลยมันจืดซอสที่ราดไปไม่เข้าเนื้อเลย >< หักคะแนนตรงนี้แหละ แต่ไก่ทอดดีมากถึงมากที่สุดดดนะยูๆๆๆๆ

เมนูสุดปิดท้ายของวันจัดเบาๆเป็น บิบิมบับ(ข้าวยำเกาหลี)และกิมจิถ้วยโต O-O

บิบิมบับ : รสชาติเฉยๆไม่ได้อร่อยถูกใจแต่ก็ไม่แย่ ไม่เผ็ดไม่หวานไม่เค็มถ้าเพิ่มรสอีกหน่อยจะพอดีกว่า
กิมจิ : กิมจิรสชาติออกเค็มๆเปรี้ยว อร่อยถูกใจได้เยอะดีขอเพิ่มได้

ข้อดีของร้านอาหารในเกาหลีคือส่วนใหญ่นะ เน้นนส่วนใหญ่ เราสามารถขอเครื่องเคียงฟรี
แต่ไม่แน่ใจว่าฟรีทุกร้านหรือเปล่านะจ๊ะๆๆ :)

วันที่
2

เริ่มต้นวันที่ 2 ด้วย "รามยอน" (มาม่าเกาลี) ตอนอาจุมม่ายกมาเสริฟรามยอนยังเดือดปุดๆๆอยู่เลยย
จำได้ว่าที่ร้านมีให้เลือกระดับความเผ็ด ด้วยความที่เป็นคนไทยกินเผ็ดได้สบายๆๆเลือก
ระดับความเผ็ดที่เผ็ดสูงสุดเลยจ้า ผลที่ได้ออกมาคือ จำได้แต่รสชาติเผ็ดอย่างเดียวเพราะปากทั้งร้อนทั้งชาไปหมด

รามยอน : รสชาติเค็มกับเผ็ด 2 อย่างเท่านั้นพูดเลยยย แต่ๆๆจะมีกิมจิหัวไชเท้าที่ออกรสหวานที่เอาไว้กินด้วยกัน
อยากจะบอกว่าเข้ากันมาก อาจุมม่าวางกิมจิหัวไชเท้าให้ตักได้ไม่ได้อั้นเลยนะ ดีตรงนี้แหละ

กิมจิหัวไชเท้า : จะออกรสหวานกินกับรามยอนแล้วพอดี๊พอดี

ต้นหอม : อาจุมม่าไม่ได้วางไว้ให้ตักเองแต่ถ้าจะเพิ่มขอได้ไม่อั้น
แบบฟรีๆๆกันไปเล้ย

เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม..ดังนั้นมาเกาหลีก็ต้องกินกิมจิกกับทุกสิ่งได้เช่นกัน... :)

** ร้านนี้เป็นร้านรามยอนเจ้าดังแถวพระราชวังเคียงบกกุง จะเป็นทางผ่านที่เดินไปหมู่บ้านบุกชอนฮันอก(หมู่บ้านโบราณ)
ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ที่ Tasty Road

วนกลับมาที่ street food อีกครั้ง 2 เมนูด้านบนคือต๊อกโบกีกับออมุก(ลูกชิ้นปลาแผ่น)ค่ะ
นี่แหละความฝันเลยที่เห็นในซีรี่ย์ที่พระเอกบ้างนางเอกบ้างหรือพระรองบ้างชอบมายืนกินที่ร้านข้างถนนแบบนี้
เจอปุ๊ปพุ่งตัวไปซื้อทันที

ต๊อกโบกี : ความคิดยังเหมือนเดิมเป็นแป้งต้มราดซอสที่ซอสไม่ซึมเข้าเนื้อแป้งไม่อร่อยเช่นเดิมโบกมือลาทันทีที่เข้าปากคำแรก --! อันยองง


ออมุก(ลูกชิ้นเค้กปลา) : OMG อร่อยอ่ะ เค็มดีชอบๆซอสราดก็โอเคหมดไม้แรกต่อไม้ 2 แทบไม่ทันนกันทีเดียวว

ด้านข้างๆอาจุมม่าจะตั้งหม้อน้ำซุปให้ฟรีเราก็หยิบแก้วกระดาษตักซุปแล้วยกซดโล้ด เติมได้เรื่อยๆๆนะ
แต่ระวังซุปลวกปากเน้อ ซุปร้อนมากไม่รู้จะร้อนไปไหน

ระหว่างทางเดินกลับที่พักสะดุดตากับเมนูหน้าร้าน(รูปอาหารหน้าร้าน)เลยหันตัวเดินเข้าร้านทันที
พูดเกาไม่ได้ฟังไม่ออกก็เรียกอาจุมม่าแล้วชี้เมนูจากรูปภาพแทน สั่งอาหารด้วยภาษามือเสร็จอาจุมม่า
ก็จะเสริฟเครื่องเคียงก่อนแล้วตามมาด้วยเมนหลักคือหมูสามชั้นกับปลาหมึกผักซอสโกซูจัง
(ตรงกลางกะทะที่โดนผักปิดหน้าอยู่เป็นปลาหมึก)

หมูสามชั้นกับปลาหมึกผัดซอสโกซูจัง : บอกเลยว่า "อร่อยยเว่อๆๆๆๆ" กินกับข้าวร้อนๆกิมจิดีๆอิ่มท้องไปอีก 1 มื้อ
ยิงตอนที่กระทะใกล้ไหม้ยิ่งอร่อยหอมควันจากเตาและมันหมูค่อยๆละลาย
ส่วนเครื่องเคียงเช่นเดิมสามารถขอได้ตลอดจ้า

เอาปลาหมึกย่างมาห่อกับผักกินเลียนแบบโอปป้าโต๊ะข้างๆ

ดูๆๆๆหมูสามชั้นย่างสิเธอ..พอมันหมูละลายบนเตาถ่านกลิ่นหอมอ่อนๆลอยออกมากินกับข้าวพร้อมกิมจิ หูยยยย! อยากกลับไปกินอีกรอบแย้ววว ^-^

วันที่
3

ซาลาเปา ณ เกาะนามิ

ซาลาเปาไส้ถั่วแดง : ไม่อร่อยอ่ะ ที่ซื้อเพราะเห็นนึ่งบนเต่าถ่านโบราณดูน่าสนใจแต่เข้าปากแล้วไม่ประทับใจ
ก็ต้องปล่อยเค้าไปโน๊ะๆ

ยังอยู่ที่เกาะนามิ เมนูต่อไปคือแพนเค้กผัก

แพนเค้กผัก : แป้งแพนเค้กจะเวลาเคี้ยวจะหนึบๆยังไงก็ไม่รู้อ่ะ
แต่เราชอบนะ ทอดออกมาไม่อมน้ำมันและจากใหญ่ดีมีซอสใส่ถ้วยเล็กมา
เป็นน้ำจิ้มให้ด้วย

** ซอสที่จิ้มเราว่ามันคล้ายๆซีอิ๊วขาวบ้านเราแต่ของเกาหลีเค็มกว่าเยอะเลย

ขึ้นจากเกาะนามิกลับเข้ากรุงโซลออกจากสถานีรถไฟฟ้ามาเจอแผงลูกชิ้นปลาเส้นสอดไส้ทอด เฉยๆไม่ฟินแต่กินแก้หิวได้ /--

อันนี้เราไม่รู้จริงๆว่าชื่ออะไร แผ่นแป้งจะคล้ายแป้งโรตีข้างในสอดไส้ผัดวุ่นเส้น โดยรวมอร่อยผัดวุ่นเส้นกินพร้อมแป้งทอดกรอบเข้ากันดี๊ดี แต่เสียตรงเลี่ยนน้ำมันเยอะเลย! คาดว่าตอนทอดอาจุมม่าน่าจะสาดน้ำมันลงไปเป็นถังแน่เลย *-*

//อาจุมม่าตั้งร้านเป็นร้านรถเข็นอยู่ในตลาดดงแดมุนไปตามหาได้เลยเน้อ//

ฮอทด๊อกชุปเกร็ดขนมปังทองกรอบ : เห้ยแกๆๆๆๆๆๆแป้งทอดกรอบประเทศนี้ดีงามอ่ะ ทอดออกมาจะกรอบไปไหนกัดคำแรกเสียง..กร๊อบๆก๊อบๆ แล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศเข้ากันฝุดๆๆๆ

ถึงจะเป็นของกินเล่นง่ายๆบ้านเราก็มีแต่ลองกินเหอะมันคนละฟิลจริงๆ
เมนูนี้หาเกินง่ายเดินหาได้รอบกรุงโซลโล้ดเด้อพี่น้อง

หมูย่างเกาหลี : เป็นมื้ออาหารที่มีความสุขฝุดๆหมูสามชั้นก้อนโตๆโอปป้าโยนหมูลงตะแกงแล้วคอยตัด
คอยย่างให้ เสียงหมูสามชั้นย่างไฟซ่าๆแล้วมันหมูจะค่อยๆหยดลงมากระทบไฟที่ใต้เตากลิ่นหอมโชยมาแตะจมูก
พอเนื้อหมูเริ่มเปลี่ยนสีจากสีแดงสดเป็นสีน้ำตาลไหม้นิดๆกำลังดี เราก็หยิบผักมาห่อกับกระเทียมพริกราด
น้ำจิ้มแล้วห่อให้งามแงะและก็ยัดเข้าปากโล้ด

!!!ห้ามพลาด!!!! ร้านไหนก็ได้เดินเข้าไปเหอะแล้วชี้เมนูตามรูปถ้าในเมนูไม่รูปก็ชี้ไปที่โต๊ะข้างๆแทนได้เหมือนกัน

เครื่องเคียง : บุฟเฟ่ต์อีกตามเคยๆยิ่งเป็นร้านเนื้อย่างนะ มีกิมจิและผักให้เลือกตักเองได้หลายชนิดเลยแหละ

วันที่
4

2 เมนูนี้เป็นอาหารจานเดียวจากด่วนของเกาหลีเค้าแหละแก๊

บิบิมบับปลาหมึก(ด้านซ้าย)และซุปกิมจิ(ด้านขวา) รสชาติเราว่าจืดไปหน่อยไม่ถูกปากแต่ดีตรงให้เยอะและราคาถูก
คุ้มราคาดังนั้นรสชาติก็ตามราคาเนอะ

แต่ถ้าหิวเน้นเยอะไม่เน้นอร่อยก็พอไปวัดไปวาได้อยู่ ร้านนี้อยู่แถวมหาลัยอีฮวาเน้อเพื่อนฝูง

ไก่ทอดริมทางแถวมหาลัยอีฮวาเช่นเดิม ร้านนี้ไก่รสไม่จัดจ้านเท่ากับร้านริมทางที่เมียงดงนะ แต่โอปป้าร้านข้างๆหน้าตาดีให้อภัยได้
(ความเชื่อมโยงอยู่ตรงไหน??)

ร้านรถเข็นขายของทอด แน่นอนว่าคุยกับอาจุมม่าไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ง่ายๆเลยวิธีสั่งอยากกินอะไรหยิบลงตะกร้าแล้วส่งให้
อาจุมม่าคิดเงินแล้วก็ยืนกินหน้าร้านต่อได้เลย

บนแผงอาจุมม่าจะมีของทอดหลากหลายให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ผักทอด พริกทอด ฝักทองทอด คิมบับ ไส้กรอกเลือด(ซุนแด) เป็นต้น
ส่วนเราแนะนำให้กินไส้กรอกเลือด(ซุนแด) เลือดเป็นก้อนไม่เหม็นคาวกินแบบทอดยิ่งอร่อยนะ

ปิดท้ายของไปนั่งจิ๊บชาเย็นๆที่ร้าน Mouse Rabbit เป็นร้านของเยซอง (Yesung) วง Super Junior จ้าๆ เราไม่ได้ติ่งวงนี้แต่ผ่านมาเลยแวะเข้าไปนิดๆ

จำไม่ได้ว่าเป็นชาอะไร กลิ่นหอมดี

ปิดท้ายด้วยบิงซูถ้วยเล็กๆ ไม่หวานมากมาในถ้วยที่กำลังกินไม่ใหญ่เว่อวังจนกินไม่หมด

พอได้ของหวานชื่นใจก็มีแรงเดินช็อปปิ้งละลายเงินวอนต่ออีก 1 รอบก่อนบินกลับไทยแลนด์เลยจ้าาาา :)

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง