รีวิว

เมืองแห่งหมอก ที่ ภูทับเบิก - เขาค้อ

ภูทับเบิก
วันออกเดินทาง 13/07/2017
วันเดินทางกลับ 14/07/2017
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน < 1,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม ภูทับเบิกที่ใครๆอยากไปช่วงหน้าหนาว แต่หารู้ไม่ว่าหน้าฝนเนี่ยแหละที่ภูทับเบิกสวยที่สุด เพราะชาวเขาจะปลูกกะหล่ำเต็มทั่วทุกแปลง เพื่อรอรับน้ำฝนที่จะตกลงมานั่นเอง

หน้าฝนทำให้ภูทับเบิกเป็นสวรรค์ของทะเลหมอกเลยก็ว่าได้ ถึงแม้การเที่ยวหน้าฝนจะทำให้เฉอะแฉะ แต่ก็มีข้อดีอยู่ตรงที่มีทะเลหมอกเกิดเยอะมากและละอองความเย็นจากไอเมฆจะอยู่รอบๆตัวเรา้หมือนเราอยู่บนสวรรค์เลยทีเดียว

อุณหภูมิเฉลี่ยบนภูทับเบิกจะอยู่ที่ประมาณ 14-28 องศาในหน้าฝน บนภูช่วงเช้าและกลางคืนลมจะแรงมากจึงทำให้อากาศเย็นตลอดทั้งปีและเป็นที่หน้าแปลกคือบนภูทับเบิกในหน้าหนาวทะเลหมอกจะเกิดยากมาก แต่พอเป็นหน้าฝนหลังจากฝนตกเท่านั้นแหละทะเลหมอกเริ่มมาเป็นปุยๆฟูๆเลย
80K views
วันที่
1

มองลงไปก็จะเห็นถนนที่ขับผ่านขึ้นมายังยอดภูมีสายหมอกแทรกตัวอยู่ตลอด

ในหน้าฝนเมฆและหมอกเป็นสิ่งที่หาดูไม่ยากบนภูทับเบิกแห่งนี้ หลังจากฝนหยุดตกถ้าลมไม่แรงมากสายหมอกก็จะเริ่มไหลมาเรื่อยๆทันที

บนภูทับเบิกจะเห็นไร่กะหล่ำปลีเต็มไปหมด และจะมองเห็นรีสอร์ทกำลังสร้างอยู่ด้วย

ถนนทางขึ้นภูทับเบิกเป็นถนนราดยางมะตอยดีตลอดเส้นทางตั้งแต่เซเว่นเชิงเขาถึงยอดภู

มองจากจุดชมวิวไร่ริมผาจะเห็นเจดีย์วัดป่าภูทับเบิกที่กำลังก่อสร้างอยู่บนยอดเขา

ยอดภูทับเบิก

จุดชมวิวหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิบนยอดภูทับเบิก

ลานกางเต๊นท์จุดชมวิวหอดูดาว

วิวด้านล่างเมื่อมองจากหอดูดาว

ร้านค้าต่างๆตรงทางลงไปไร่ริมผา

บ้าน A1 ของไร่ริมผาที่จองยากมาก ไม่เคยว่างเลยซักวัน หน้าบ้านคือวิวแบบพาโนราม่ามาก ในรูปจะเห็นเจดีย์วัดป่าภูทับเบิกบนยอดเขาด้วย

บ้านพักไร่ริมผาที่ต้องรีบจองกันเดือนต่อเดือน

ลานกางเต๊นท์ของไร่ริมผาที่วิวแบบสุดยอด เช้ามาออกจากเต๊นท์ก็จะเจอทะเลหมอกทันที

เป็นที่พักแบบหลักสิบแต่วิวหลักล้านจริงๆ ช่วงหน้าฝนลมจะแรงมากดังนั้นต้องยึดเต๊นท์ดีๆให้แข็งแรง ไม่อย่างนั้นเต๊นท์ปลิวแน่นอน 555

ลานกางเต๊นท์จุดนี้ถ้าเป็นช่วงวันหยุดหรือไฮซีซั่นจะเต็มหมด

ทะเลหมอกตอนเช้าที่มาเสิร์ฟถึงหน้าบ้าน A2 ของไร่ริมผา

ทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้นและแปลงกะหล่ำ ดูจากรูปว่าสวยแล้วนะ พอเห็นของจริงแล้วฟินมาก

ความมหัศจรรย์ของทะเลหมอกภูทับเบิกที่สวยจนไม่รู้จะบรรยายยังไงนอกจากต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง

แสงแรกของวันกับยอดเจดีย์วัดป่าภูทับเบิกที่อยู่สูงทะลุเมฆ

จุดชมวิวไร่ริมผา เป็นจุดที่สามารถดูทะเลหมอกได้ทั้งวันแบบพาโนราม่า และมีความรู้สึกเหมือนจะเอื้อมมือไปแตะหมอกได้

หน้าฝนเป็นฤดูที่ชาวเขาปลูกกะหล่ำปลีเต็มไปหมดทุกแปลงและสามารถเห็นได้เมื่อไปถึงภูทับเบิก

ก็คือทุ่งกะหล่ำปลีเขียวเต็มไปหมด หลายพัน หลายหมื่นไร่ ปลูกเป็นขั้นๆ เพื่อรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมา

ภาพความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของภูทับเบิก ก็เกิดจากกะหล่ำปลีในฤดูฝนนั่นเอง

วันที่
2

มาถึงภูทับเบิกและเขาค้อจะไม่แวะมาร้านนี้ก็ไม่น่าจะได้เป็นร้านที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปและชิมกาแฟกัน

มองลงไปจะเห็น Pino Resort ที่มีเพียง 5 หลังเท่านั้น

บรรยากาศรอบๆร้านที่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม

เนื่องจากตอนที่ไปเป็นวันธรรมดา คนจึงไม่เยอะ ถ้าหากเป็นช่วงวันหยุดแล้วก็จะหาที่นั่งยากนิดนึง

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเมื่อมองจาก Pino Latte

พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

จุดประสงค์ในการสร้างนี้ เพื่อเป็นการร่วมน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมฉลองพระชนม์มายุ 85 พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ

พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

มหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์

มีขนาดฐานกว้าง 41 เมตร ยาว 72 เมตร และสูง 45 เมตร แบ่งเป็น 6 ชั้น โดยชั้นที่ 1 และ 2 เป็นที่พักของผู้เข้าปฏิบัติธรรม และบริเวณอื่นๆใช้เป็นที่ สวดมนต์และฟังธรรม

เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต

วัตถุประสงค์การสร้างเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี

เจดีย์ประดับด้วยสิ่งของหลากหลายสิ่งนำมาประกอบเข้าเป็น กำแพง เสา บันได

มาถึงเขาค้อก็จะต้องแวะมาที่เที่ยวแห่งใหม่ของที่นี่ ทุ่งกังหันลมเขาค้อ ที่ใช้กังกันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าพลังงานลม

ทุ่งกังหันลมไม่สามารถนำรถเข้ามาได้ โดยจะต้องจอดไว้ด้านนอกเสียค่าจอด 20 บาท และเดินเข้ามาถ่ายรูปและชมสถานที่ด้านในได้

ชิงช้าชาวเขา ที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คของที่นี่

รถฟอร์มูล่าม้ง

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง