รีวิว

ออกพรรษา 58 กับ สองเมืองต้องไป(หนองคาย-ขอนแก่น)และสองเมืองต้องห้าม...พลาด(เลย-เพชรบูรณ์)

Thailand
วันออกเดินทาง 27/10/2015
วันเดินทางกลับ 30/10/2015
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 3 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน 1,001 - 5,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม ***รีวิว ตุลาคม 58 เพื่อเป็นข้อมูลให้สำหรับผู้สนใจการท่องเทียวไทย
15K views
วันที่
1

ออกพรรษา 58 เริ่มวันที่ 27 ตุลาคม ออกเดินทางหลังเที่ยงคืน(วันที่ 26ต่อเช้าวันที่ 27) จากกำแพงเพชรผ่านสุโขทัย พิษณุโลก แยกบ้านแยงนครไทย ด่านซ้าย ภูเรือ เลย เชียงคาน สังคม(หนองคาย) จุดหมายแรกแวะชมวิวแม่น้ำโขง สังคมและประเทศลาว ที่วัดผาตากเสื้อ สวยครับ

สายๆวันเข้าพรรษา กับที่พัก บ้านพักเคียงโขง รีสอร์ทริมโขง ตรงข้ามเวียงจันทน์ สนามบินวัดไต กับบรรยากาศซิวๆช้าๆ

ย้อนกลับไปที่วัดหินหมากเป้ง เพื่อดูปั้งไฟพญานาค(ที่ไม่เห็นสำหรับปีนี้)

ที่พักยามค่ำ กับแสงและสี

วันที่
2

สีสรรยามเช้า ฝั่งไทยและลาว

จับจักรยานของที่พัก ปั่นและก้อปั่น ดูบรรยากาศยามเช้า กับเมืองที่เงียบสงบ

พระจันทร์กำลังลับขอบฟ้าฝั่งตะวันตก

ส่วนพระอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นมาจากฝั่งลาว

พระอาทิตย์ขึ้นที่ไหนก้อเหมือนแต่ที่นี่ ลาว

หลังจากวันแรกกลับการเดินร่วม 500 กม. มาต่อวันที่2 ออกจากศรีเชียงใหม่ ผ่านท่าบ่อ แวะตลาดท่าเสด้จหนองคาย แล้วย้อนกลับมาอุดรราชธานี เข้าขอนแก่น บ่ายแก่ มุ่งสู่จุดหมายแรก พระมหาธาตุแก่นนคร หรือพระธาตุ 9 ชั้น วัดหนองแวง ริมบึงแก่นนคร โดยสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราช สมบัติครบ 50 ปี และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้าของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช และความร่วมมือร่วมใจของชาวท้องถิ่น ความสูงขององค์พระธาตุฯ 80 เมตร มีพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุมและมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ผสมผสานศิลปะอินโดจีน ในขณะเดินขึ้นไปในแต่ละชั้น พร้อมยังสามารถเดินชมศิลปะและความงดงามของบานประตู ภาพวาด และหน้าต่างแกะสลัก บอกเล่าเรื่องราวเป็นภาพชาดก ภาพพุทธประวัติ ในชั้นบนสุดของพระธาตุเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกลางบุษบก อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวทัศนียภาพความสวยงามของเมืองขอนแก่นได้รอบทั้ง 4 ทิศ โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของบึงแก่นนคร

เมืองขอนแก่น ยามค่ำ

วันที่
3

ยามเช้า

วันที่3 แล้วออกจากขอนแก่น ทางชุมแพ เลี้ยวขวาเข้าภูกระดึง หนองหิน วังสะพุง ตัวเมืองเลย เลี้ยวซ้ายมาทางภูเรือ ขับมาอึดใจ 14 กม.เอง เลี้ยวขวา เข้าอ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง เลือกแพตามใจมีหลายที่ ราคาแพตามขนาด แพเล็ก ไม่เกิน 5 คน 200 บาท,แพกลาง ไม่เกิน 10 คน 300 บาท,แพใหญ่ ไม่เกิน 20 คน 400 บาท ทางร้านจะลากแพออกไปกลางน้ำตรงมุมใดมุมหนึ่งของอ่างเก็บน้ำนี้ก็ได้ ถ้าต้องการเล่นน้ำสามารถเช่าเสื้อชูชีพและห่วงยาง พร้อมสั่งอาหาร นอนๆนั่งร่วม 3 ชม. ดีมากเลยจะกลับเมื่อไหร่ให้ชักธง หรือโทรก้อได้

นี้เลยลากเรามา ถึงที่ทิ้งสมอ(หิน) ลอยอยู่กลางน้ำแล้วก้อไป สักพักกลับมาพร้อมกลับอาหารที่สั่งไว้

ออกจากแพ ย้อนไปทางผ่านภูเรือถึงด่านซ้าย มืดเลย เข้าที่พัก เมาน์เทนกรีน รีสอร์ทด่านซ้าย

วันที่
4

ยามเช้า มีหมอกให้เห็นหลังจากฝนตกเมื่อวานเย็น อากาศเย็นสบาย

วันสุดท้าย ออกจากด่านซ้าย ผ่านหล่มเก่า เข้าแค้มป์สนเขาค้อ เลี้ยวขวาเข้าด้านหลังวัดผาซ่อนแก้ว ขับรถผ่านกลางวัดมุ่งไปพีโน่ลาเต้ รีสอร์ท : Pino Latte Resort อยู่เลยวัดผาซ่อนแก้วขึ้นไปทางเชิงเขา สามารถมองเห็นหุบเขาหลังวัดผาซ่อนแก้ว ซึ่งเป็นบริเวณต่อเนื่องมาจากภูทับเบิกได้อย่างสบายๆ ท่ามกลางสายลมเย็นจากร่องเขา

โลกนี้คือดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักมันได้จากการบอกเล่า
แต่คนเราจะต้องเดินทางท่องเที่ยวไปเพื่อทำความรู้จักกับมันด้วยตัวเอง

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง