ปักหมุด 5 ที่เที่ยวมรดกโลกทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด
หากพูดถึง มรดกโลกทางธรรมชาติ บางคนอาจจะคุ้นหูมาบ้างแล้ว แต่ก็อาจมีอีกหลายคนที่ยังสงสัยว่าเป็นยังไง? แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ คือสถานที่ที่มีลักษณะทางกายภาพ และชีวภาพมีคุณค่าโดดเด่นในทางวิทยาศาสตร์ หรือเป็นสถานที่ซึ่งมีสภาพทางธรณีวิทยา และภูมิประเทศที่ได้รับการวิเคราะห์แล้ว ว่าเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพันธุ์พืชและสัตว์หายาก ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ซึ่งหน่วยงานที่ทำการคัดเลือกและขึ้นทะเบียน มรดกโลกทางธรรมชาติ ก็คือ องค์การ UNESCO และปัจจุบันมีมรดกโลกทางธรรมชาติ ประมาณ 200 กว่าแห่งทั่วโลก แต่ละที่ก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติสุดล้ำค่า
วันนี้ govivigo จะพาเพื่อนๆ ไป ปักหมุด 5 ที่เที่ยวมรดกโลกทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด ลองหาโอกาสไปชมความงามด้วยตาของตัวเองสักครั้งในชีวิต โดยเฉพะคนชอบเที่ยวธรรมชาติพลาดไม่ได้เลย!!
1.Iguazu Falls น้ำตกอีกวาซู, ประเทศอาร์เจนติน่า-บราซิล

เริ่มกันที่น้ำตกอีกวาซู แห่งอเมริกาใต้ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการา ถึง 30 เท่า) มีความหลากหลายทางชีวภาพ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น มรดกโลกทางธรรมชาติ ซึ่งมีความยาวกว่า 2,700 เมตร ประกอบด้วยน้ำตกน้อยใหญ่กว่า 275 สาย ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ บนรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศอาร์เจนตินา บราซิลและปารากวัย โดยเราสามารถเข้าชมได้จากทั้งฝั่งอาร์เจนตินาและบราซิล อีกทั้งยังเป็นน้ำตกที่มีพลังเสียงอันยิ่งใหญ่และละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เกิดเป็นสายรุ้งพาดผ่านน้ำตกอย่างงดงามตลอดทั้งปี ไฮไลท์อยู่ที่จุดชมวิว Devil’s Throat สุดอลังการที่สามารถเดินเข้าไปสัมผัสน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด และอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือการล่องเรือเข้าใกล้น้ำตกเพื่อสัมผัสน้ำตกอย่างใกล้ชิด ใครอยากสัมผัสความสดชื่นจากน้ำตกแบบเต็มๆ แนะนำที่นี่เลย
นอกจากนี้บริเวณอุทยานแห่งชาติยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและนกกว่า 400 สายพันธุ์ รวมถึงสัตว์หายากอย่าง ตัวกินมดยักษ์ เสือจาร์กัว นกอินทรีฮาร์ปี และสัตว์เขตร้อนนานาชนิด ใครชอบ เที่ยวธรรมชาติ ไปชมความงดงามอลังการของน้ำตกอย่างทั่วถึง แนะนำให้เข้าชมจากฝั่งของประเทศบราซิล ส่วนใครที่อยากใกล้ชิดน้ำตก แนะนำว่าให้เข้าชมจากฝั่งอาร์เจนตินาได้เลย
2.Wulingyuan Scenic Area อู่หลิงหยวน หุบเขาอวตาร, ประเทศจีน

ใครอยากไปสัมผัสกับเทือกเขาสูงเสียดฟ้า ประหนึ่งว่าลอยได้แบบดินแดนแพนดอร่า คล้ายสถานที่ที่เคยปรากฏอยู่ในภาพยนต์ชื่อดังอย่าง เรื่องอวตาร (Avatar) ต้องลองมาหุบเขาอวตาร หรือ Wulingyuan Scenic Area ที่อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน แม้จะไม่ได้ลอยฟ้าแบบในหนังก็ตามที แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงมาก เพราะผู้กำกับเขาได้ไอเดียมาจากที่นี่แหละ โดยที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งแรกของจีนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 บนเนื้อที่กว่า 9,500 ตารางกิโลเมตรของอุทยาน เต็มไปด้วยแท่งภูเขาหินทราย สูงขึ้นฟ้ามากกว่า 3,000 ยอด สะพานหินตามธรรมชาติ น้ำตก และถ้ำน้อยใหญ่กว่า 40 แห่ง
ไฮไลท์ของการเข้าชมอยู่ที่การนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมทัศนียภาพของภูเขาหินละลานตา งานนี้ใครกลัวความสูงต้องใจสู้หน่อยนะ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมีความปลอดภัยสูง ซึ่งอุทยานแห่งนี้ยังคงรักษาความสมบูรณ์ของระบบนิเวศไว้เป็นอย่างดี และยังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์พืช รวมถึงพันธุ์สัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย
3.Plitvice Lakes National Park อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เลค, ประเทศโครเอเชีย

ภาพแห่งความเขียวขจีของขุนเขาตัดกับสีเขียวมรกตใสของทะเลสาบ ที่เหมือนผ่านการแต่งภาพมาแล้ว แต่มันคือภาพธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับที่นี่ "อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เลค" มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งประเทศโครเอเชีย โดยเป็นทะเลสาบสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ท่ามกลางเทือกเขาสูง แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดสมบูรณ์ ทัศนียภาพสวยๆ เหล่านี้เกิดจากธารน้ำที่ไหลผ่านหินปูนและหินชอล์กนานนับพันปีจนเกิดเป็นน้ำตกและถ้ำหลายแห่ง
ที่นี่มีไฮไลท์อยู่ที่การเดินเส้นศึกษาธรรมชาติ โดยคุณจะเห็นน้ำสีเขียวใสสะอาด ฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมา ก่อนจะไปถึงจุดที่สวยที่สุด กับจุดชมวิวบริเวณน้ำตก Veliki Slap อันตระการตาซึ่งสูงกว่า 70 เมตร ใครที่รักการ เที่ยวธรรมชาติ รักสีเขียวของธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง จะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน
4.Swiss Alps Jungfrau-Aletsch จุงเฟรา-อาเล็ทซ์ เทือกเขาแอลป์, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ยอดเขาจุงเฟรา อันโด่งดังแห่ง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปบนเทือกเขาแอลป์ ใครที่หลงใหลความสวยงามของภูเขาน้ำแข็งแนะนำให้มาที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งนี้เลย ซึ่งด้านบนยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี โดยมีจุดชมวิวให้เราได้ชมความงามของทัศนียภาพโดยรอบแบบ 360 องศา ซึ่งการเดินทางขึ้นไปยังจุงเฟรายังคงความคลาสสิกด้วยการนั่งรถไฟ บอกเลยว่าโรแมนติกสุดๆ นอกจากที่เราจะขึ้นไป เที่ยวธรรมชาติ ชมความงดงามของภูเขาน้ำแข็ง และธารน้ำแข็งต่างๆ ด้านบนแล้ว ก็ยังมีจุดแวะเที่ยวในหมู่บ้านที่ยังคงความดั้งเดิมของบ้านเก่าไว้ให้เห็นอยู่ รับรองว่าประทับใจแน่นอน
5.Grand Canyon National Park อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน, ประเทศสหรัฐอเมริกา

อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน รัฐแอริโซนา คือความงดงามทางธรรมชาติของหินผาแกรนิตที่มองเห็นเป็นแถบลายที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของแม่น้ำโคโลราโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา มีภูมิประเทศเป็นทุ่งภูเขาที่แห้งแล้งและกว้างใหญ่ไพศาล ยิ่งใหญ่และงดงามอย่างประหลาด ด้วยความสวยงามแปลกตานี้เอง ที่ทำให้แกรนด์แคนยอนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก
ไฮไลท์ ของการเข้าชมแกรนด์แคนยอนก็คือ สะพานกระจกลอยฟ้า ที่สร้างมาเพื่อนักท่องเที่ยวให้ได้ขึ้นไปชมวิวและทัศนียภาพที่งดงาม ซึ่งเป็นสะพานกระจกรูปตัวยู ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความมหัศจรรย์ของที่นี่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ เช่น การปั่นจักรยาน การเดินชมความงดความของหน้าผา เป็นต้น
Booking.com
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : mushroomtravel.com
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)