แนะนำ 7 ที่เที่ยวถ่ายรูปสวยช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ในภูมิภาค คันไซ
เหลือเวลาอีกไม่นานช่วงเวลาการชม ใบไม้เปลี่ยนสี ก็กำลังจะมาถึงแล้ว สำหรับใครที่กำลังวางแผนชวนคนรู้ใจไปเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงปลายปีนี้ govivigo ขอแนะนำ 7 ที่เที่ยวถ่ายรูปสวยช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ในภูมิภาค คันไซ จัดเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ จะมีเส้นทางไหนบ้าง ไปชมกัน!
คันไซ คือภูมิภาคที่อยู่ตอนกลางทางตะวันตกของเกาะฮอนชู ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ ชิงะ, นารา, วากายะมะ, เกียวโต, โอซาก้า และเฮียวโงะ ซึ่งการชมใบไม้เปลี่ยนสีในแถบคันไซจะสวยงามที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งใครอยากไปเที่ยวให้ตรงช่วงนี้ก็อย่าลืมเช็ค พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น กันล่วงหน้าด้วยนะ ส่วนที่เที่ยวถ่ายรูปสวยแต่ละที่มีที่ไหนบ้าง ตามพิกัดไปเที่ยวกันเลย
1.Kiyomizu-dera Temple – เกียวโต

ถ้าพูดถึง คันไซ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ต้องมาเช็คอินเป็นที่แรกก็คือ วัดคิโยะมิสึเดระ ( Kiyomizu-dera Temple) หรือวัดน้ำใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโตวัดหนึ่ง นอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณของวิหารไม้หลังใหญ่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO แล้ว บรรยากาศรอบๆ วัดยังมีวิวที่สวยงามแตกต่างกันไปในทุกฤดูโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เหล่าต้นเมเปิ้ลนับพันพร้อมใจกันผลัดใบเป็นสีแดงส้มสดใส และจะยิ่งฟินสุดๆ เมื่อได้มองจากจุดชมวิวบนเนินเขา ชื่นชมทิวทัศน์ของเมืองเกียวโตที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้แดงสวยงาม ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมด ถึงแม้ว่าตอนนี้อาคารหลักของวัด หรือ จุดชมวิวอาคารไม้ จะอยู่ในระหว่างปิดซ่อมแซม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2020 แต่ก็ยังสามารถไปชมบรรยากาศสวยๆ ของที่นี่กันได้นะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 200 เยน
เวลาทำการ : รอบเช้า ตั้งแต่ 06.00 น. / รอบเย็น 17.30 – 21.00 น. (พิเศษเฉพาะฤดูกาล)
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสที่ป้าย Kyotoeki-mae สาย 100, 206 ลงที่ป้าย Kiyomizu-michi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร
2.Kinkakuji Temple – เกียวโต

มาเที่ยวคันไซช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโตแล้วต้องไปที่ วัดทอง หรือ Kinkakuji Temple กันด้วย เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด เพราะว่านอกจากบรรดาต้นเมเปิ้ลสีส้มแดงที่ตั้งเรียงรายตลอดทางเดินภายในวัดแล้ว ไฮไลท์สำคัญของการมาเยือนวัดแห่งนี้ก็คือ ปราสาทสีทองอร่าม ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ โอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้สีเขียวสลับแดงส้ม งดงามราวกับภาพวาด ถ่ายรูปได้สวยทุกมุม ไม่ผิดหวังจริงๆ จดลิสต์ไว้ได้เลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก 300 เยน
เวลาทำการ : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต นั่งรถบัสสาย 101, 205 ลงที่ป้าย Kinkakuji-michi เดินต่ออีก 5 นาที
3.Arashiyama – เกียวโต

ต่อกันที่อีกหนึ่งที่เที่ยวถ่ายรูปสวยที่เป็นไฮไลท์ของ คันไซช่วงใบไม้เปลี่ยนสี คือ อาราชิยาม่า (Arashiyama) เมืองเล็กๆ ในเกียวโตที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวจะนิยมนั่งรถไฟสายโรแมนติกที่เรียกว่า Sagano Scenic Train เพื่อชมวิวทิวทัศน์ของหุบเขาที่ถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีโทนแดงส้ม แล้วค่อยมาแวะเดินเล่นชมธรรมชาติที่อยู่รอบๆ ทุกคนที่เดินทางมาเที่ยวที่นี้จะต้องไม่พลาดการถ่ายรูป ชมวิวบนสะพาน Togetsukyo สะพานที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำโฮสุโดยมีภูเขาอาราชิยามาเป็นฉากหลัง และกิจกรรมที่ทำให้เพลิดเพลินอีกมากมาย ทั้งล่องเรือชมใบไม้เปลี่ยนสีริมแม่น้ำ Hozugawa, เดินเที่ยววัด Tenryuji และแวะสูดอากาศเย็นๆ ที่ป่าไผ่ บอกเลยว่าใครเป็นสายธรรมชาติ อยากได้รูปสวยๆ ลงโซเชียล ต้องมา!

การเดินทาง : เส้นทางรถไฟสายโรแมนติก – จากสถานีเกียวโต นั่งรถไฟสาย JR Sagano ไปยังสถานี JR Saga-Arashiyama Station ประมาณ 15 นาที แล้วไปยังสถานี Torokko Saga Station ที่อยู่ติดกันเพื่อเริ่มต้นนั่งรถไฟ Sagano Romantic Train
4.Nara Park – นารา

Nara Park สวนสาธารณะเก่าแก่ขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองนารา เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคคันไซที่สวยงามที่สุด บนพื้นที่กว่า 5,020,000 ตารางเมตรภายในสวนจะถูกโอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของใบไม้สีส้มแดงให้เดินเล่นถ่ายรูปกันเพลินๆ แถมพบปะกวางป่าประจำสวนอย่างใกล้ชิด ในบริเวณยังมีที่เที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วัดโทไดจิ หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ เมืองนารา, ศาลเจ้าคาซูกะ และวัดโคฟุคุจิ ไปที่เที่ยวเที่ยวได้ครบเลยล่ะ

การเดินทาง : จากสถานี Osaka-Namba Station นั่งรถไฟสาย Kintetsu Line ลงสถานีปลายทาง Kintetsu Nara (ประมาณ 40 นาที) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร
5.ปราสาทโอซาก้า โอซาก้า

แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้า ที่ใครไปเที่ยวญี่ปุ่น ต้องไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้งกับ ปราสาทโอซาก้า ที่งดงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บรรดาต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ลต่างๆ ที่อยู่ในสวนรอบปราสาทต่างก็ผลัดใบเปลี่ยนสีสวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ แถมพออยู่ในบรรยากาศสุดคลาสสิกคู่กับปราสาทแสนสวยแล้ว จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมที่ต้องมาถ่ายรูปเก็บภาพประทับใจให้ได้เลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน / เด็กนักเรียนต่ำกว่าชั้นมัธยมต้น ฟรี
เวลาทำการ : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Loop Line ไปลงที่สถานี Osaka Castle Park แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
6.Kobe Nunobiki Herb Gardens เฮียวโงะ

ไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันต่อที่ Kobe Nunobiki Herb Gardens สวนสมุนไพรขนาดใหญ่ที่สุดบนภูเขา Rokko ในเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดของสวนแห่งนี้ก็คือบนกระเช้าไฟฟ้า Kobe Nunobiki Ropeway ระหว่างทางขึ้นไปยังสวนสมุนไพรนั่นเอง งานนี้บอกเลยว่านอกจากจะได้ดื่มด่ำกับสีสันของต้นไม้มากมายแล้ว ยังได้เพลิดเพลินกับสมุนไพรและดอกไม้นานาชนิดด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,400 เยน / เด็ก 700 เยน (รวมค่าขึ้น Ropeway แบบไป-กลับ)
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 17.00 น. / เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 10.00 – 20.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shin-Kobe แล้วเดินต่อไปยัง Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway ประมาณ 5 นาที
7.Momijidani Park ฮิโรชิม่า

ปิดท้ายเราขอพาออกนอกคันไซไปนิดหน่อย ในจังหวัดใกล้เคียงกันอย่างฮิโรชิม่า มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ นั่นก็คือ Momijidani Park สวนสาธารณะบรรยากาศดีในเกาะมิยาจิมะ ที่นี่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาตามล่าใบไม้แดงกันสุดๆ เพราะทุกๆ ปี เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิ้ลกว่า 700 ต้นในสวนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มทั่วบริเวณ โดยเฉพาะบริเวณสะพานโมมิจิที่มีเหล่าเมเปิ้ลนับร้อยเป็นฉากหลัง ไปยืนถ่ายรูปตรงนี้ได้แบบฟินๆ บอกได้คำเดียวเลยค่ะว่า ห้ามพลาด!
การเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี JR Miyajimaguchi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
Booking.com
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : mushroomtravel.com
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)