รีวิว

เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์...ดินแดนแห่งขุนเขาและทะเลสาบ! - EP 1/2 ซูริค (Zurich)

switzerland
วันออกเดินทาง 13/08/2016
วันเดินทางกลับ 20/08/2016
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน > 50,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม ผมแบ่งการเดินทางออกเป็น 2 ตอนนะครับ เนื่องจากเที่ยวหลายวัน
EP 1/2 เมืองซูริค (Zurich)
EP 2/2 เมืองดาโวส (Davos)

การเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ครั้งแรกของผมจะเป็นอย่างไร มาติดตามกันเลย!
252K views
วันที่
1

โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ชอบธรรมชาติมากครับ อาจจะเนื่องมาจากที่ผมโตมากับวิถีชีวิตเด็กต่างจังหวัด ถ้าให้เลือกระหว่างการเที่ยวแบบช้อปปิ้งกับเที่ยวแบบธรรมชาติ ผมจะเลือกอย่างหลังซะส่วนใหญ่ สวิตเซอร์แลนด์จึงเป็นประเทศในฝันของผมเลยก็ว่าได้ ถ้าได้เห็นทุ่งหญ้าสีเขียวสวยๆ วิวพาโนรามาแจ่มๆ สูดอากาศสดชื่นบนยอดเขาสูงๆสักลูกที่เทือกเขาแอลป์ มันคงจะที่สุดแล้วในชีวิตนี้.

และแล้ว...ผมก็มีโอกาสมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์จนได้ครับ :-)

ผมนั่งสายการบินหางแดงเจ้าถิ่น ไม่ใช่แอร์เอเชียนะครับ 55555 Swiss Air ครับ มาลงที่ซูริค (Zurich)
ผมเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองครับ ว่าซูริคไม่ใช่เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์แต่เป็นเมืองเบิร์น (ความรู้วิชาสังคมศึกษาของผมช่างน้อยนิดเหลือเกิน ไม่รู้ครูให้ผ่านมาได้ไง 55555) แต่ซูริคเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของสวิส ส่วนศูนย์ราชการต่างๆจะอยู่ที่เบิร์น

วิวที่เห็นในภาพแรกด้านล่างไม่ใช่ซูริคนะครับ เป็นเมืองเมืองหนึ่งตอนเครื่องกำลังลดระดับลงก่อนจะลงจอดประมาณ 20 นาที

พอเครื่องลงจอดแล้วเดินไปชั้นล่างสุดครับเพื่อไปขึ้นรถไฟ ตามป้ายคำว่า Bahn/Train ไปเลย

เวลาซื้อตั๋วผมแนะนำซื้อจากพนักงานนะครับ เพราะภาษาหลักๆของสวิตเซอร์แลนด์ใช้ภาษาเยอรมันถ้าซื้อจากตู้เหมือนคุณลุงคุณป้าฝรั่งอาจจะงงๆ กว่าจะหาเมนูเจอ ส่วนเมืองที่ติดๆกับฝรั่งเศษก็จะใช้ภาษาฝรั่งเศษ เมืองที่ติดกับอิตาลี่ก็จะใช้ภาษาอิตาลี่ครับ

ส่วนมากคนก็พูดภาษาอังกฤษได้ครับ แต่บางคนพูดไม่ได้ก็มี เคยไปถามยามที่สถานีรถไฟที่ซูริคเขาก็พูดอังกฤษไม่ได้หรือเขาอาจไม่ใช่คนสวิสเพราะยุโรปตะวันออกมาทำงานที่สวิสก็เยอะครับ

เสร็จแล้วลงไปชั้นล่างๆุสุดเพื่อรอขึ้นรถไฟเข้าเมืองซูริคกันเลยครับ พยายามมองตารางรถไฟก่อนจะลงมาชั้นล่างนะครับ ไม่งั้นจะเหมือนผม ต้องขึ้นบันไดเพื่อข้ามไปอีกชาญชลา กระเป๋าก็หนัก T-T

นั่งรถไฟมาประมาณ 20 นาทีก็มาถึงสถานีซูริคล่ะครับ จะเหมือนเดินอยู่ในสยามพารากอนก็ไม่ต้องงงนะครับ ให้ขึ้นไปชั้นบนสุด เพราะเขาทำเป็นช้อปปิ้งมอลล์ด้านล่าง ประมาณ 2-3 ชั้น ไม่อยากบอกว่าผมเดินวนหาทองออกไม่เจอ 55555
ใครอยากแลกเงินก็ชั้นบนเหมือนกันครับ ชั้นล่างๆไม่มี เพราะผมหลงจนเดินทุกซอกทุกมุมล่ะ 5555

ออกมาจากสถานีรถไฟผมก็จะเดินไปโรงแรมครับ ต้องเดินข้ามสะพานไปประมาณ 400 ม. แนะนำให้จองโรงแรมแถวๆนี้แหละครับ สะดวก วิวก็สวย เป็นเขตเมืองเก่า เดินตามแม่น้ำไปที่ทะเลสาบน่าจะเป็นวิวสวยที่สุดในเมืองแล้วละครับ

รูปด้านล่างเป็นสถานีรถไฟซูริคครับ

วิวรอบๆ เดินจากสถานีรถไฟ

หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้วเริ่มหิว เพราะกว่าจะถึงโรงแรมก็ห้าโมงกว่าๆแล้ว เลยออกหาไรกินครับ

ที่ถ่ายรูปนี้มาไม่ใช่ว่ามันสวยนะครับ แต่จะมาบอกว่า อย่าสั่งเด็ดขาด ย้ำอีกครั้ง อย่าสั่ง!!! 5555555
มันก็คือ สนิชเซล (schnitzel) หรือหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดนั้นเอง ซึ่งรถชาติไม่อร่อย แป้งไม่กรอบ ไม่รู้จะบรรยายยังไง ที่เข้าไปร้านนี้เพราะหิวเจอร้านไหนก็เข้าร้านนั้นเลย แล้วเมนูเขาก็ไม่ค่อยมีอะไรมากทั้งๆที่ร้านก็ไม่ใช่เล็กๆ ซึ่งผมเดินจากซ.เล็กๆซึ่งเป็นถนนคนเดินด้านหลังเข้าไปในร้าน พอนั่งไปสักพักมีวงดนตรีและนักร้องขึ้นบนเวทีเสียงดังมากเพราะอยู่ถัดไปอีกแค่โต๊ะเดียว ไม่นึกว่าร้านอาหารฝรั่งจะมีนักร้องนักดนตรีมาร้องคาราโอเกาะเหมือนสวนอาหารบ้านเรา T-T
ผมต้องนั่งกินอาหารห่วยๆแต่โคตรแพงกับเสียงเพลงที่ดังแสบแก้วหู

แล้วที่พีคที่สุดคือตอนพนักงานมาเก็บเงิน มีเก็บค่าฟังเพลงคนล่ะสามร้อยบาท!!!!

เพลงที่ผมอยากจะเอาหูฟังมาปิดหูไว้ตอนกินข้าว แต่ต้องจ่ายค่าฟังสองคนก็หกร้อยบาท
รวมค่าอาหารสองจานกับเครื่องดิ่มสามแก้ว ต้องจ่ายประมาณสามพันบาท บริการก็แย่ ไม่เคยกินอะไรแล้วรู้สึกไม่คุ้มที่สุดในชีวิตเท่านี้มาก่อน พูดมาแล้วแค้น 555555
ต้อนรับผมวันแรกได้ดีจริงๆ

เสร็จแล้วเดินสำรวจเมืองกันเลยครับ ผมเริ่มเดินจากริมแม่น้ำลงไปยังทะเลสาบ
วันนี้คนเยอะเต็มถนนนะครับ เพราะเขามีพาเหรดคนรักเพลงอิเล็กทรอนิกส์ งานจัดไปตั้งแต่บ่ายๆจนถึงเที่ยงคืน ขยะเลยเต็มถนนแต่เดี่ยวพรุ่งนี้ก็หายวับไปกับตายังกับเวทมนต์ ถ้าเป็นบ้านเราก็เหมือนมีเวทมนต์เหมือนกันครับ...เหมือนมีคนเสกมาเพิ่ม 55555

ผมเดินไปจนถึงสะพานที่ขั้นระหว่างแม่น้ำกับทะเลสาบนะครับ น้ำที่นี้จะใสออกเขียวหยกเนื่องจากไหลมาจากบนภูเขา ถ้าจะบอกว่าสีมรกตมันก็ไม่มีสีน้ำเงินปนเหมือนที่เราเห็นที่บ้านเรา ผมเลยเรียกสีเขียวหยกละกันครับ :-)

เดินๆไปเจออาหารไทยด้วย เสียดายน่าจะเจอเร็วกว่านี้ แต่ราคาก็แพงครับ ราดแกงแบบบ้านเรา 30-40 บาท ที่นี้ข้าวราดบนจานกระดาษ/พลาสติก แบบที่คนเสื้อแดงๆถือ จานละ 15 ฟรังส์ ก็ประมาณ 600 บาท

เดินกลับมาแถวๆสถานีรถไฟแล้วครับ บรรยากาศสวยดี ด้านหน้าสถานีรถไฟจะเป็น shopping street นะครับ มีแบรนด์เนมต่างๆ

เบเกอรี่ที่สถานีก็น่าจะอร่อยครับ มีหลายร้านให้เลือกนะครับ

วันแรกของสวิตเซอร์แลนด์ ผมขอจบด้วยรูปวิหารโกรสส์มึนสเตอร์(Grossmunster) ซึ่งจะมีหอคอยคู่เป็นสัญลักษณ์ เดี่ยวพรุ่งนี้ผมจะพาขึ้นไปดูบนยอดหอคอยครับ

วันที่
2

บรรยากาศตอนเช้าๆ มองออกไปจากระเบียงก็เห็นโบสถ์สวยๆละครับ

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จผมเริ่มเดินไปแถวๆ Zähringerstrasse ซึ่งน่าจะเป็นถนนคนเดินในย่างเมืองเก่า ไม่ไกลจากที่พักของผมมากครับ เป็นซอยเล็กๆ มีร้านอาหารและโต๊ะนั่งสองข้างทาง

เดินจนมาถึงวิหารโกรสส์มึนสเตอร์(Grossmunster)

ด้านในวิหารครับ เดี่ยวขึ้นไปดูวิวจากด้านบนกัน
เข้าชมวิหารฟรีนะครับ แต่ถ้าจะไปดูวิวด้านบนต้องจ่าย 4 เหรียญ ผมคิดว่าถูกมากเลยครับ ถ้าเปรียบเทียบกับค่าคลองชีพที่นี่ ทานข้าวแกงจานหนึ่งก็เกือบๆยี่สิบเหรียญล่ะ

ก่อนจะขึ้นไปก็เตรียมพร้อมกันก่อนนะครับ เพราะทางขึ้นทั้งแคบชันและวน กว่าจะถึงข้างบนผมก็หน้ามืดไปหลายรอบล่ะ ใช้เวลาประมาณสิบกว่านาที

บรรยากกาศเมืองซูริคจากมุมสูงครับ หลังคาตึกเก่าๆ ทะเลสาบสีเขียว
จากมุมนี้เราจะเห็นเมืองแบบพาโนราม่าเลยนะครับ คุ้มมากๆ จ่าย 4 เหรียญ วิวหลักล้าน 5555555

บรรยากาศรอบๆวิหาร วิวติดแม่น้ำ
ที่เห็นหลังคาเขียวๆนั้นคือ Church
Kirche Fraumünster หรือ Church of Our Lady ซึ่งเป็นโบสถ์ที่มีชื่อด้านความสวยงามด้านในประดับด้วยกระจกสี (Stain Glass)

จากที่มีงานเมื่อวานนะครับ ยังมีลังไม้จากร้านข้างๆ สวยไปอีกแบบ

วันนี้ผมนัดเพื่อนคนไทยที่อยู่ซูริคไว้แถวๆสะพานที่ทะเลสาบ ระหว่างรอก็เดินชมวิวไปเรื่อยๆครับ

หลังจากเจอเพื่อนแล้วไปนั่งเรือชมวิวที่ทะเลสาบกันครับ
ค่าตั๋ว 8.6 เหรียญต่อคน ใช้เวลาเกือบๆ 3 ชม.ครับ ถือว่าคุ้มมากๆ ใครมาซูริคต้องมานั่งให้ได้นะครับ

จากด้านหลังทำให้เห็นวิวทั้งเมืองและทะเลพร้อมลมเย็นๆ

ระหว่างทางก็มีรับคนขึ้นมาบนเรือด้วยครับ

บนดาดฟ้าเรือครับ แดดๆแบบนี้ไม่ร้อนเลย

จบการรีวิวสำหรับ EP 1 แล้วนะครับ พรุ่งนี้ผมต้องเดินทางไปเมืองดาโวส
สำหรับซูริคผมให้คะแนน 7/10 ครับ ไม่ให้เต็ม 10 เพราะเนื่องจากของโคตรของโคตรแพง 555555 และส่วนตัวถ้าให้เปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆในยุโรป ตึกรามบ้านช่องยังไม่โดดเด่นพอสำหรับผมครับ แต่ส่วนที่ชอบคือทะเลสาบ
เข้าไปติดตามรีวิว EP 2 เมืองดาโวส (Davos) ได้ที่นี่นะครับ
www.govivigo.com/reviews/176-เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์-ดินแดนแห่งขุนเขาและทะเลสาบ%2CEP-22-เมืองดาโวส-Davos

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง